มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง มีการใช้ปากด้วย 3 วันต่อมา มีแผลที่อวัยวะเพศ จะมีโอกาสติดเชื้อ HIV ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Nam2541,

                        การมีแผลที่อวัยวะเพศดังกล่าว อาจเกิดจากการเป็นโรคเริมได้ โดยอาการจะปรากฏหลังจากติดเชื้อตั้งแต่ 2-10 วัน ทั้งนี้หากได้มีการทำออรัลเซ็กส์ ก็จะมีโอกาสติดเชื้อเริมจากปากมาได้ค่ะ อาการของโรคเริม เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส อาจมี 1 ตุ่มหรือหลายตุ่ม มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึมได้ หากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ เมื่อเป็นเริมครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะกลับเป็นซ้ำๆ ได้อีกโดยไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์อีก เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในรางกายของเราไปตลอดชีวิต ดังนั้นโรคเริมที่กำลังเป็นอยู่ ก็อาจเป็นการกำเริบจากการที่เคยเป็นก็ได้ ไม่ได้ติดจากการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งนี้

                     อย่างไรก็ตาม แผลที่อวัยวะเพศ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น

                     - ซิฟิลิส แต่จะมีระยะฟักตัวของโรคที่ 10-90 วัน ดังนั้น หากปรากฏเพียง 3 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่น่าใช่ โดยก้นแผลจะมีลักษณะเรียบ ชอบยกนูนและแข็ง พื้นแผลมีสีแดงและดูสะอาด แผลจะไม่เจ็บไม่คัน เรียกว่าแผลริมแข็ง 

                        - แผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม  มีระยะฟักตัว 3-10 วัน ลักษณะของแผลจะดูแฉะไม่สะอาด มีเนื้อเยื่อเละ ๆ ที่ก้นแผล ส่วนที่ขอบแผลจะนูน ไม่แข็ง และไม่เรียบ และรู้สึกเจ็บ จึงเรียกว่า แผลริมอ่อน 

                       ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่าใช่โรคเริมหรือไม่ ควรไปพบแพทย์เพือ่ตรวจค่ะ

                      สำหรับการติดเชื้อ HIV หากมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หากฝ่ายหญิงมีเชื้อ HIV ฝ่ายชายจะมีโอกาสติดเชื้อประมาณ 0.01-0.38% แต่หากใช้ถุงยางอนามัย จะช่วยลดโอกาสลงไปได้ประมาณ 90% หรือมีโอกาสติดเชื้อที่ 0.001%-0.038%

                   สำหรับทำออรัลเซ็กส์ หากเป็นฝ่ายใช้ปากทำให้ผู้หญิง หากผู้หญิงมีเชื้อ HIV จะมีโอกาสติดเชื้อ HIV ประมาณ 0.005%