ถามแพทย์

  • แฟนเคยติดโรคเอดส์มาก่อน แต่บอกหายแล้ว และได้มีเพศสัมพันธ์ มีอาการต่างๆ เกิดจากยาคุมไหม

  •  หมู กรอบ.
    สมาชิก
    มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบไม่ใส่ถุงมา3ครั้งค่ะ มาทราบว่าแฟนเคยติดโรคเอดส์มาเมื่อปี2ปีก่อน แต่พอถามบอกหายแล้ว หลังจากมีเพศสัมพันธ์มาก็เกือบ3เดือนประมาณเดือนละ1รอบ เริ่มมีอาการไอเจ็บคอมีเสมหะ และทีาผ่านมาปวดข้อมือข้างซ้าย และอาการปวดหัวไม่รู้ว่าเป็นผลกระทบที่เกิดจากการกินยาคุมรึเปล่า เป็นแบบนี้มา2อาทิตเกือบ3อาทิตย์แล้วค่ะ รู้สึกไม่สบายใจมากๆ

    สวัสดีค่ะ คุณ Dear,

                        หากแฟนเคยติดเชื้อ HIV ในปัจจุบัน ยังไม่มียาที่รักษาให้โรคหายขาดได้ ดังนั้น แนะนำให้คุณ Dear ไปตรวจเลือดหาการติดเชื้อ HIV รวมถึงโรคอื่น เช่น ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซีค่ะ และในช่วงระหว่างที่รอไปตรวจเลือดนี้ หากจะมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อนค่ะ

                        สำหรับอาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ ไม่ได้เป็นอาการที่เกิดจากผลข้งเคียงของยาคุมกำเนิด เพราะผลข้างเคียงของยาคุม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว เวียนหัว เจ็บเต้านม อารมณ์แปรปรวน เลือดออกกะปริดกะปรอย เป็นต้น ดังนั้น อาการดังกล่าว น่าจะเกิดจากการเป็นไข้หวัดค่ะ ซึ่งในเบื้องต้น ก็ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่สูบบุหรี่ ไม่ตากลม ไม่ตากฝน รักษาร่างกายให้อบอุ่น เป็นต้น

                         ส่วนอาการปวดข้อมือมือก็เช่นกัน ไม่ได้เป็นอาการที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุม แต่เกิดจากสาเหตุ เช่น ปวดข้อมือจากการใช้งานมากเกินไป มีการอักเสบของเอ็นและปลอกหุ้มเอ็น หรือเกิดจากเส้นประสาทที่ข้อมือถูกกดทับ เป็นต้น ซึ่งในเบื้องต้น ก็ควรงดการใช้ข้อมือทำงานหนักต่างๆ ประคบอุ่นบ่อยๆ

                         หากอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ