ถามแพทย์

  • อายุ 21 ปี มีน้ำใสๆ ไหลจากหัวนมม า2-3 ปี ไปหาหมอบอกไม่เป็นอะไร ช่วง 1 สัปดาห์ น้ำมีคราบสีน้ำตาลปนกับเหลือง เป็นอะไร

  •  Manow Kamonphan
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ จริงๆเคยมาปรึกษาไปแล้ว ว่ามีน้ำใสๆพอแข็งตัวก็จะออกเป็นสีเหลืองๆ เป็นคราบติดเสื้อใน เริ่มเป็นมาประมาณสองปีกว่าจะเข้าสามปี(ตอนทีปรึกษาในเว็บนี้คุณหมอบอกว่าไม่ให้ไปจับไปบีบและไม่ให้ใส่เสื้อที่รัดหน้าอกแน่น เราเลยใส่เสื้อในเฉพาะออกนอกบ้าน เวลาอยู่บ้านจะไม่ใส่) เคยไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาล เขาก็ถามว่าไหลเยอะหรือเจ็บไหม เราก็บอกไปว่าไม่เยอะ เหมือนเป็นแค่หยดสองหยดที่ไหลออกมา ไม่มีอาการเจ็บด้วย(ไม่ได้ไหลทุกวัน) หมอคนนั้นบอกว่างั้นยังไม่เป็นอะไร บอกมาแค่นี้ (ไปหาหมอเมื่อต้นปี) แต่ที่อยากมาปรึกษาอีกครั้งคือ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วสีที่เป็นคราบเหลืองๆมันเหมือนจะเป็นสีน้ำตาล ไม่ได้เป็นทุกวันนะคะเป็นแค่บางวันที่มีคาบสีน้ำตาลปนมากับคาบสีเหลือง แล้วจากที่ไหลบ้างไม่ไหลบ้างช่วงประมาณกลางๆปีมานี้ไหลทุกวันเลยค่ะ ยังเป็นคราบติดเสื้อในและก็เป็นผลึกแข็งเหมือนเดิมไหลมาเท่าเดิม ไม่ได้เจ็บนมนะคะ แค่รู้สึกขัดๆที่นมเป็นบางวัน ไหลเฉพาะข้างขวาข้างเดียวนะคะ ตอนนี้อายุ21 ไม่มีลูก ไม่เคยมีเพศสัมพีนธ์

    สวัสดีค่ะ คุณ Manow Kamonphan,

                         น้ำใสๆ เหลืองๆ ที่ไหลออกจากหัวนม อาจเกิดจาก

                         1. มีเนื้องอกของท่อน้ำนม หรือเป็นมะเร็งของท่อน้ำนม (แต่มักพบในคนอายุมาก และมักคลำได้ก้อนร่วมด้วย)

                         2. เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกาย เช่น ช่วงหลังคลอดบุตร ช่วงเข้าสู่วัยรุ่น หรืออาจเกิดการถูกกระตุ้นโดยการ บีบ นวดคลึงบ่อยๆ ก็ทำให้มีน้ำไหลออมาได้ แต่มักมีลักษณะเป็นน้ำนม

                          3. เกิดจากการใช้ยาบางอย่าง เช่น  ยารักษาโรคทางจิตเวชต่างๆ ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน domperidone, การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนสริม, ยาแก้ปวดกลุ่มมอร์ฟีน ยาเสพติดโคเคน และกัญชา การใช้สมุนไพรบางชนิด เช่น ลูกซัด (fenugreek seed) โป๊ยกั๊ก (anise) เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้มีน้ำนมไหลได้

                         4. เกิดจากโรคต่างๆ นอกเต้านม เช่น เนื้องอกของต่อมใต้สมอง ไตวาย ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นมะเร็งปอด เป็นต้น ซึ่งผลิตฮอร์โมนไปกระตุ้นให้น้ำนมไหลได้ 

                          หากน้ำไหลออกมาเอง โดยไม่ได้เกิดจากการบีบ หรือนวดคลึงเต้านม และไม่ได้มีการทานยาอะไร รวมถึงยาฮอร์โมนคุมกำเนิดชนิดต่างๆ ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอีกครั้งค่ะ โดยให้เล่าอาการว่ายังคงมีน้ำไหล แม้จะไม่ได้มีการบีบเต้านม ซึ่งอาจต้องมีการตรวจอัลตราซาวด์ หรือฉีดสีดูท่อน้ำนมค่ะ