ถามแพทย์

  • สอบถามเรื่องผลข้างเคียงของผู้ป่วยติดเชื้อ HIV หลังทานยาต้านไวรัส

  •  Naam Rraya
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ  ดิฉัน มีคนในครอบครัวเป็นผู้ติดเชื้อ HIV เคยรับการรักษาระยะหนึ่ง แต่หยุดการรักษามาแล้วประมาณ 4-5 ปีค่ะ โดยที่ไม่ทานยาเลย ปัจจุบันเริ่มการรักษาใหม่ โดยแพทย์ให้ลอง เริ่มทานยา วันละ 1 เม็ด/ก่อนนอน ค่ะ เขาทานประมาณมา 5 วัน ค่ะ สังเกตุว่ามีอาการต่างจากเดิม เช่น มึนงง คลื่นไส้ และมากกว่านั้นคือ หงุดหงิดง่ายมาก คล้ายจะมีอารมณ์ซึมเศร้า เริ่มมีความคิดว่าอยากฆ่าตัวตาย ค่ะ อยากทราบว่า อาการเหล่านี้ เป็นเพราะผลของยาต้านไวรัส ด้วยหรือไม่ คะ/ขอบคุณค่ะ

    Naam Rraya  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Naam Rraya

    ยาต้านไวรัส hiv ในปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพสูง เป็นการผสมกันของตัวยาต้านไวรัสหลายตัว และสำคัญคือจะต้องกินทุกวันอย่างต่อเนื่อง

    ผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสนั้น อาจจะต้องทราบชื่อยาที่ใช้อยางแน่นอนร่วมด้วยเพราะก็มียาหลายสูตรที่แพทย์อาจจะใช้ แต่ส่วนใหญ่แล้วในกลุ่มยาต้านไวรัส อาจมีผลข้างเคียงระยะสั้นที่เริ่มกินในช่วงแรก คืออาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องอืด นอนไม่หลับ ฝันร้าย มีผื่นขึ้นเล็กน้อย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปได้เองค่ะ

    แนะนำติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สามารถรับประทานยาแก้คลื่นไส้เพื่อบรรเทาอาการ พักผ่อนให้เพียงพอ จัดให้มีผู้คอยอยู่ดูแลอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อคอยสังเกตพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น ถ้าไม่สบายใจ หรือผู้ป่วยมีพฤติกรรมอยากฆ่าตัวตายหรือมีแนวโน้มว่าจะลงมือจริง ไม่ควรรอ ให้รีบกลับไปพบแพทย์ที่รักษา นำยาที่ทานไปให้แพทย์ดูด้วยค่ะ