ถามแพทย์

  • ปวดท้องประจำเดือนมากมา 2-3 ปี ปวดมากขึ้น มีลิ่นมเลือด ผิดปกติไหม ต้องไปพบแพทย์ตอนไหน

  •  liyoulan
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ดิฉันมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน ทุกครั้งที่เป็นประจำเดือนจะปวดท้องมากๆติดกัน3-4วัน ต้องกินยาพอนเเสตนทุกครั้งทุกวันที่เป็น กินติดต่อมา2-3ปีเเล้วค่ะ ช่วงหลังๆมานี้ รู้สึกว่าปวดท้องหนักกว่าเดิมเเล้วสังเกตเห็นลิ้มเลือดใหญ่มากๆ มีความยาวประมาณ2ข้อนิ้วชี้ได้ค่ะ มีความหนาประมาณ4เซ็นติเมตร เเบบนี้เรียกว่าผิดปกติไหมคะ เเล้วก็ช่วงนี้ที่เป็น จะปวดท้องทางด้านซ้ายด้วยค่ะ อยากถามว่าถ้าจะไปพบคุณหมอ ต้องไปตอนประจำเดือนหมดเเล้วหรือช่วงที่กำลังเป็นประจำเดือนคะ ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ liyoulan,

                         หากอาการปวดท้องประจำเดือน เป็นมาตั้งแต่วัยรุ่น หรือเกิดขึ้นในช่วงอายุ 15-25 ปี โดยที่อาการปวดจะเกิดขึ้นก่อนหรือขณะมีประจำเดือนมา และจะหายไปเมื่อประจำเดือนหมดไป และอาการปวดไม่ได้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ จึงไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด 

                          แต่หากไม่เคยมีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก่อน หรืออาการปวดเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือยังคงปวดต่อเนื่องแม้ประจำเดือนจะหมดไปแล้ว ถือว่าเป็นอาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก

                         -  มีเนื้องอกมดลูก

                         - เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่

                         - ซีสต์ที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งเกิดจากเซลล์เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ไปที่รังไข่และก่อตัวเป็นถุงน้ำ 

                        - มีมดลูกอักเสบ หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ แต่มักจะทำให้ปวดแบบเรื้อรัง ไม่เป็นตามรอบประจำเดือน และมักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย หากมีการอักเสบจนเกิดพังผืดในโพรงมดลูกขึ้น ในช่วงที่มีประจำเดือน ก็จะทำให้มีอาการปวดมดลูกมากได้

                       - พังผืดในช่องท้อง ซึ่งอาจเกิดจากเคยผ่าตัดในช่องท้องมาก่อน หรือเคยมีการอักเสบในอุ้งเชิงกรานมาก่อน (ที่ไม่ใช่จากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่) จะทำให้เกิดการดึงรั้งของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน โดยจะมีอาการปวดท้องน้อยแบบเรื้อรังมากกว่าที่จะปวดตามรอบของประจำเดือน

                        ดังนั้น หากเพิ่งปวดมา2 -3 ปี และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ ซึ่งแนะนำควรอให้ประจำเดือนหมดก่อน แล้วจึงไปตรวจค่ะ เพื่อให้การตรวจมองเห็นสิ่งผิดปกติที่อาจมีได้ง่ายขึ้น

                        ในเบื้องต้น หากปวดมาก อาจทานแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (paracetamol) หรือยาในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น พอนสแตน (ponstan) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เป็นต้น