ถามแพทย์

  • เวลาเดินชอบปวดใต้ฝ่าเท้า เป็นมาหลายวันแล้ว เกิดจากสาเหตุอะไร

  •  Tee Permsapsri
    สมาชิก
    เวลาเดินชอบปวดใต้ฝ่าเท้าครับเป็นมาหลายวันแล้วครับไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Tee Permsapsri,

                      อาการปวดใต้ฝ่าเท้า น่าจะเกิดจากโรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ (หรือโรครองช้ำ) ซึ่งอาการคือ จะปวดบริเวณส้นเท้าหรืออาจลามไปทั้งฝ่าเท้า อาการจะปวดมากที่สุดเมื่อลุกเดินก้าวแรกหลังจากตื่นนอนหรือจากนั่งพักเป็นเวลานาน สาเหตุของโรคอาจเกิดได้จาก

                      1. การยืนหรือเดินต่อเนื่องเป็นเวลานาน

                      2. มีน้ำหนักตัวมาก

                      3. การออกกำลังกายบางอย่างที่มีการกระแทกส้นเท้ามากไป เช่น การวิ่งระยะทางไกล หรือวิ่งบนพื้นที่ขรุขระมากไป การเต้นแอโรบิค เป็นต้น

                      4. สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่ไม่มีพื้นบุรองส้นเท้า

                      5. เอ็นร้อยหวายยึด หรือเอ็นบริเวณน่องยึด ทำให้ส้นเท้าและข้อเท้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

                      6. ปัจจัยทางโครงสร้างร่างกาย เช่น อุ้งเท้าแบนไป อุ้งเท้าโก่งมากไป

                      7. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เส้นเอ็นที่เชื่อมกับข้อต่อกระดูกอาจเกิดการอักเสบ และทำให้พังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้ แต่ก็จะต้องมีอาการปวดตามข้อเรื้อรัง ข้อบวมแดงเป็นๆหายๆ ร่วมด้วย

                       ในเบื้องต้น หากเพิ่งเป็นมาเพียงไม่กี่วัน ก็ควรพยายามลดปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ไปก่อน เช่น งดการยืนนาน การเดินมาก งดการออกกำลังกายและเล่นกีฬาไปก่อนชั่วคราว หากมีน้ำหนักตัวมาก ก็พยายามลดน้ำหนักตัวลง การใส่รองเท้าให้มีขนาดพอดี และมีพื้นบุตรงส้นเท้าที่ยืดหยุ่นไม่แข็งเกินไป เป็นต้น   

                        สำหรับการบรรเทาอาการปวด เช่น การแช่เท้าในน้ำอุ่นและบีบนวดเท้า การทานแก้ปวด เช่น ไดโคลฟีแนค (diclofenac), นาโปรเซน (naproxen), ไพรอซิแคม (piroxicam) เป็นต้น หากยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ