มีตุ่มขึ้นฝ่ามือฝ่าเท้า และแขนขา ตรวจเลือดพบติดเชื้อ HIV และซิฟิลิส ผมควรทำยังไงครับ

สวัสดีครับ

-อาการของโรคเอดส์นั้นจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล และไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอาการทั้งหมดที่จะกล่าวต่อไปเหล่านี้ก็ได้ เช่น
1.ไข้เรื้อรังนานเกิน 1 เดือน
2.ไอเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่ได้นานเกิน 3 เดือน
3.น้ำหนักลดอย่างรวดเร็วเกิน 10%ของน้ำหนักเดิมใน 3 เดือน
4.ท้องเสียเรื้อรังไม่หายขาดเกิน 3 เดือน
5.ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วตัวนานเกิน 3 เดือน
6.ฝ้าขาวในปากหรือลิ้นนานเกิน 3 เดือน
7.มีแขนขาอ่อนแรง ชัก เซื่องซึม หลงลืม โดยที่ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน
8.โรคมะเร็ง เช่น คาโปสิซาร์โคมา ลักษณะมีก้อนนูนสีแดงม่วงขึ้นตามลำตัว แขนขา
9.ผื่นโรคเริม งูสวัด หูดข้าวสุก หรือเชื้อรา ขึ้นตามร่างกาย

โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคเรียชื่อ ทรปโปนีมา
โดยลักษณะอาการจะแบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ
-ระยะที่ 1 เป็นระยะนี้เป็นระยะที่ยังไม่แสดงอาการแต่สามารถเป็นระยะติดติดได้  กล่าวคือ เมื่อติดเชื้อที่อวัยวะเพศภายนอก ริมฝีปาก ล้ิน ทอนซิล หัวนม จะเริ่มด้วยมีตุ่มขนาดเล็กๆ 2-4 มิลลิเมตร ต่อมาแตกเป็นแผลใหญ่ขึ้น ลักษณะกลมรี ขอบเรียบแข็งก้นแผลสะอาด ไม่เจ็บ อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษานี้หายเองได้
-ระยที่ 2 ระยะออกดอก ซึงเป็นระยะหลังเป็นโรคระยะแรก 2-3 สัปดาห์ ที่ติดต่อได้ง่าย โดยมีผื่นจะมีลักษณะต่างจากผื่นลมพิษทั่วๆไป คือมีผื่นที่ฝ่ามือ/เท้า และไม่คัน บางรายอาจจะไม่มีผื่น แต่อาจจะมีอาการเมื่อยเนื้อตัว ผมร่วงเป็นหย่อมแทน
-ระยะที่ 3 ระยะแฝงซึ่งเป็นระยะสุดท้ายประมาณ 3-10 ปีจากระระแรก มักเป็นระยะที่ไม่มีการติดต่อหากไม่ได้รับการรักษา จะมีผลทำให้ หูหนวก ตาบอด ใบหน้าผิดรูป เนื้อจมูกโดยทำลายเป็นรอยโหว่ง เป็นต้น

การติดต่อของโรคซิฟิลิส ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยระยะแรก หรือสัมผัสน้ำเหลืองที่ผิวหนังกับผู้ป่วยระยะออกดอก หรือจากแม่สู่ลูก

ควรไปตามนัด เนื่องจากแพทย์อาจจะต้องตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ และวางแผนการรักษาไปพร้อมๆกันเพื่อประสิทธิผลที่ดีที่สุด ส่วนรอยตุ่มตามแขนขาส่วนใหญ่แล้วมักจะทิ้งรอยเป็นตุ่มแผลและมีสีดำ ใช้เวลานานมากกว่าจะหายซึ่งจะขึ้นแล้วแต่ละบุคคลครับ