ถามแพทย์

  • คันบริเวณช่องคลอดและปวดบริเวณหัวหน่าวข้างซ้าย เป็นอะไร จะใช้ยาสอดได้ไหม

  •  Weeramon yenjai
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะดิฉันมีเรื่องจะสอบถามค่ะ พอดีมีอาการคันบริเวณช่องคลอดและมีอาการปวดบริเวณหัวเหน่าข้างซ้ายอยากทราบเปนเพราะอะไรค่ะ ไปหาหมอมาหมอให้ยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อมาและยาทาค่ะ แบบนี้จะให้ยาสอดได้ไหมค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Weeramon yenjai,

                    อาการคันบริเวณช่องคลอด อาจเกิดจาก

                   1. การติดเชื้อรา นอกจากมีอาการคันเป็นหลักแล้ว อาจมีอาการเจ็บแสบได้ และจะมีตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวมีปริมาณมาก มีสีขาวขุ่นจับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก หรือนมบูด ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศภายนอกอาจเกิดเป็นผื่นสีแดง การรักษา คือใช้ยาเหน็บหรือใช้ยาชนิดรับประทาน

                   2. การแพ้สัมผัส เช่น อาจแพ้ผงซักฟอก  หรือน้ำยาที่ใช้ซักกางเกงใน แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผ้าอนามัย แพ้แป้งที่นำมาทาบริเวณอวัยวะเพศภายนอก แพ้ถุงยางอนามัย เป็นต้น แต่มักพบผื่นแดงที่ผิวหนังร่วมด้วย การรักษาคือการทานแก้แพ้แก้คัน

                   3. การเปียกชื้นบริเวณอวัยวะเพศ เช่น ชุดชั้นในรัดมากเกินไป ไม่ระบายอากาศ  หรือเหงื่อออกมาก

                   4. มีโรคหูดบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งจะเห็นเป็นตุ่มหรือติ่งที่ผิวมีลักษณะขุรขระ ปกติมักไม่ทำให้เกิดอาการ แต่อาจมีแสบหรือคันเล็กน้อยได้

                   5. มีแผลฉีกของเยื่อบุช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งในกระบวนการหายของแผลจะเกิดอาการคันได้

                   6. มีพยาธิเส้นด้ายหรือพยาธิเข็มหมุดจากในทวารหนักเข้ามาอยู่ที่ปากช่องคลอด แต่ก็จะมีอาการคันรูทวารหนักร่วมด้วย โดยเฉพาะเวลากลางคืน

                  ในเบื้องต้น หากไม่ได้มีตกขาวที่ผิดปกติ ยังไม่แนะนำให้ใช้ยาสอดสำหรับฆ่าเชื้อรา ให้พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพ้และระคายเคืองก่อน และอย่าให้อวัยวะเพศเปียกชื้น ใส่กางเกงและกางเกงชั้นในที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป งดการสวนล้างช่องคลอด หากมีอาการคันมาก อาจทานยาแก้แพ้แก้คัน เช่น ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine) , chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น หากอาการคันไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์ค่ะ

                     แต่หากมีตกขาวผิดปกติร่วมด้วย โดยมีลักษณะแบบการติดเขื้อราดังที่กล่าวไป ก็อาจใช้ยารักษาซึ่งมีทั้งยาแบบสอดและยาทาน เช่น ยา clotrimazole ซึ่งมีทั้งชนิด 100, 200, 500 มิลลิกรัม ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาค่ะ

                    สำหรับอาการปวดที่หัวหน่าว หากผิวหนังมีการบวม แดง ก็อาจเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อหรือรูขุมขนได้ แต่หากผิวหนังไม่มีการบวม แดง ไม่มีก้อนอะไร ก็อาจเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อจากการโดนกระแทกก็ได้ ดังนั้น ให้ทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้มาก่อน หากอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง