ถามแพทย์

  • เริ่มกินยาคุม 2 พ.ย. มีเพศสัมพันธ์ 7 พ.ย. วันที่ 14-18 พ.ย.มีเลือดออกเล็กน้อย ตรวจแล้วไม่ท้อง จะท้องไหม

  •  Honit90
    สมาชิก

    สวัสดีครับคุณหมอ

    ผมกับแฟนมี พสพ กันวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา แบบใช้วิธีการเสร็จนอก และไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย โดยที่แฟนผมเริ่มกินยาคุมแบบ 21 เม็ด วันที่ 2 พ.ย. (ไม่ใช่ 5 วันแรกของการมี ปจด) แฟนผมรอบเดือนจะไม่สม่ำเสมอครับ โดย ปจด มาล่าสุดคือวันที่ 10 ต.ค. (เท่ากับว่าผมมี พสพ กับแฟนวันที่ 29 ของรอบเดือนครับ)

    ผ่านมาวันที่ 14 พ.ย. มีเลือดสีน้ำตาลแห้งๆ ออกมาเล็กน้อยสังเกตได้จากตอนปัสสาวะครับ มีแบบนี้จนไปถึงวันที่ 16 พ.ย. และหลังจากนั้น วันที่ 17 - 18 พ.ย. เลือดเปลี่ยนเป็นสีแดงสด แต่มาเล็กน้อยเหมือนกัน ผมเลยทำการตรวจครรภ์ทางปัสสาวะ ตอนเช้าของวันที่ 18 พ.ย. (ตรวจในวันที่ 11 หลังจากมี พสพ ครับ) ขึ้น 1 ขีด แบบนี้คือท้องไหมครับคุณหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ rangers,

                       หากประจำเดือนมาวันที่ 10 ต.ค. แล้วได้เริ่มทานยาคุมกำเนิดวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งไม่ใช่ภายใน 1-5 วันแรกของการมีประจำเดือนมา ก็ต้องทานต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อน เพื่อให้ยาคุมได้เริ่มออกฤทธิ์ ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 7 พ.ย. ก็อาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ

                        ส่วนการตรวจหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 18 พ.ย. ผลที่ได้อาจถือว่ายังไม่แน่นอน แนะนำควรรอให้ครบ 14 วันก่อน แล้วอาจตรวจซ้ำดูอีกครั้ง 

                        สำหรับเลือดสีน้ำตาลที่ออกมาเล็กน้อยในวันที่ 14-16 พ.ย. และเลือดสีแดงในวันที่ 17-18 พ.ย. น่าจะเป็นเลือดที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ที่อาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ค่ะ ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไร

                          แนะนำให้ทานยาคุมต่อจนครบ 21 เม็ด ซึ่งก็จะครบในวันที่ 22 พ.ย. แล้วหลังจากนั้นให้เว้นไประยะไป 7 วัน ซึ่งเมื่อเว้นไป 2-4 วัน ก็จะมีเลือดออกมาอีก โดยถือเป็นเลือดประจำเดือน และเป็นการแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ