อ่านเจอในหนังสือว่าถ้าดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประจำจะทำให้เสี่ยงเป็นโรคไต เป็นเรื่องจริงไหมครับ

สวัสดีค่ะ คุณ นพรัตน์ แก้ววิจัย,

                    คาเฟอีน (caffeine) เป็นสารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ มีรสขม พบในพืชหลายชนิด เช่น เมล็ดกาแฟ ใบชา ผลโกโก้ และสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาใช้ได้ ในชีวิตประจำวันเราได้รับคาเฟอีน จากชา กาแฟ โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง ช็อกโกแลต น้ำอัดลมบางชนิด รวมถึงยาแก้ปวดบางตัว คาเฟอีนไม่จัดเป็นอาหาร จึงไม่จำเป็นสำหรับร่างกายของเรา

                   คาเฟอีนมีฤทธิ์กระต้นระบบประสาทส่วนกลาง จึงทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และไม่ง่วงนอน เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและขับออกทางปัสสาวะ

                   ผลข้างเคียงจากการทานคาเฟอีนที่อาจเกิดขึ้นในบางคน ได้แก่ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว มื่อสั่น นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น

                    องค์กรด้านการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ผู้ใหญ่ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกินวันละ 250 มิลลิกรัม หรือประมาณ 2 แก้วครึ่งต่อวัน เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรค

                     - กระดูกพรุน นอกจากคาเฟอีนจะทำให้การขับน้ำออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น (ซึ่งเป็นสาเหตุให้ปัสสาวะบ่อย) ยังขับแคลเซียมและแมกนีเซียมออกจากร่างกายไปกับปัสสาวะด้วย หากทานทุกวันเป็นปริมาณมาก จึงอาจเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนได้

                     - โรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากขณะทานคาเฟอีน หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น รวมถึงมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นชั่วคราว แม้การศึกษาส่วนใหญ่จะไม่พบความสัมพันธ์ของคาเฟอีนกับโรคหลอดเลือดหัวใจที่ชัดเจน แต่หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้

                     - โรคกระเพาะอาหาร ตชคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาการปวดแสบท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ

                       - เกิดภาวะเสพติดคาเฟอีน ซึ่งเมื่อไม่ได้รับคาเฟอีนเข้าร่างกาย จะเกิดอาการปวดศีรษะ หงุดหงิด วิตกกังวล ไม่มีสมาธิ เป็นต้น

                     สำหรับโรคไต ไม่พบว่าคาเฟอีนมีผลทำให้เกิดโรคไตโดยตรง แต่เนื่องจากคาเฟอีนมีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย หากทานแต่เฉพาะตัวคาเฟอีน โดยไม่ได้ทานน้ำเข้าไปด้วย อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น ไตเสื่อม อาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้