ถามแพทย์

  • เป็นตุ่มเนื้อบริเวณต้นขามา 5 ปี ไม่เจ็บ ไม่คัน 2 ปีก่อน เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และใหญ่ขึ้น เป็นตุ่มอะไร

  •  Ake777
    สมาชิก
    เป็นตุ่มเนื้อบริเวณต้นขาด้านหลังเป็นมาประมาณ5ปีเเล้วครับ ตอนเเรกเป็นตุ่มเนื้อยอดแหลมไม่มีอาการเจ็บ,คัน กดแล้วไม่เจ็บ ช่วง2ปีก่อนสังเกตว่าตุ่มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเเล้วใหญ่ขึ้นมาก คลำดูรู้สึกว่ามีหัวด้านใน อยากทราบว่ามันเป็นตุ่มอะไรครับ ต้องรีบรับการรักษาเลยไหม https://www.img.in.th/image/dt1pM2 https://www.img.in.th/image/dt1Yi9 https://www.img.in.th/image/dt1QgM https://www.img.in.th/image/dt1dD3

    สวัสดีค่ะ คุณ Ake777,

                          จากรูปภาพที่แนบมา ลักษณะเป็นก้อนที่ยื่นออกมาจากผิวหนัง ผิวขรุขระเล็กน้อย มีสีเดียวกับผิวหนัง แต่ออกชมพูกว่าเล็กน้อย ก็น่าจะเป็นก้อนเนื้องอกค่ะ โดยอาจเป็นก้อนเนื้องอกธรรมดาของเนื้อเยื่อ หรือที่เรียกว่าติ่งเนื้อ หรืออาจเป็นก้อนเนื้องอกชนิดอื่นๆ ก็ได้ เช่น ก้อนเนื้องอกไขมัน ก้อนเนื้องอกของเซลล์ปลแกประสาท เป็นต้น แต่มักจะออกกลมมน และผิวเรียบมากกว่า หรือหากคลำได้นิ่มๆ อาจเป็นซีสต์ชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น ซีสต์ไขมนใต้ผิวหนัง เป็นต้น

                           หากเป็นมานาน 5 ปีแล้ว ไม่มีอาการเจ็บ ไม่ได้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ไม่น่าใช่เนื้อร้าย (มะเร็ง) ค่ะ อย่างไรก็ตาม การมีก้อนที่ผิวหนัง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา โดยส่วนใหญ่ ควรตัดก้อนเนื้อออกไป เพื่อนำก้อนไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้การวินิจฉัยที่แน่นอน และเป็นการป้องกันไม่ให้ก้อนโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจอันตรายได้หากเกิดอุบัติเหตุ เช่น ถูกกระแทกจนเกิดเลือดอก เป็นต้น ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปแกะ เกา ก้อน ไม่ใช้ยาใดๆ ไปทาค่ะ