ถามแพทย์

  • คันสะดือแล้วเกา ต่อมาสะดือแดง มีกลิ่น มีน้ำใสอยู่ข้างในสะดือ เจ็บ แสบ เหมือนมีหนอง ควรทำอย่างไร

  •  mukkk
    สมาชิก
    เมื่อคืนมีอาการคันสะดือแล้วเกิดเกา จากนั้นเริ่มแดง รู้สึกสะดือมีกลิ่นเลยทำความสะอาดด้วยการเอาสำลีชุปน้ำเกลือเช็ด ผ่านไปสักพักรู้สึกเหมือนมีน้ำใสๆอยู่ข้างในสะดือ จนเช้านี้มีอาการเจ็บ แสบบริเวณภายนอก ส่วนด้านในมีเหมือนหนอง ลองเอาสำลีเช็ดออกก็รู้สึกว่าเจ็บด้านใน ทำยังไงดีคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Mukkk,

                      การที่หลังจากเกาสะดือ สะดือได้แดง เจ็บ เหมือนมีหนองออกมา น่าจะเกิดจาก มีการอักเสบของเนื้อเยื่อ (cellulitis) ซึ่งอาจเกิดจากการที่ไปเกา จนผิวหนังเกิดบาดแผลเล็กๆ เชื้อโรคจึงเข้าไปทำให้เกิดการอักเสบได้ โดยจะทำให้ผิวหนังมีอาการบวมแดง มีอาการเจ็บและปวดร่วมด้วย และอาจมีน้ำเหลืองซึมได้ ทั้งนี้ การอักเสบของเนื้อเยื่อ อาจพัฒนากลายเป็นฝี ทำให้เห็นหนองไหลออกมาได้

                         แนะนำว่าหากมีหนองไหล ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อจ่ายยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องให้ทาน และหากเป็นฝี แพทย์ก็อาจมีการผ่าระบายออกหนองออกด้วยค่ะ ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาจเป็นมากขึ้น ยากต่อการรักษาได้ ในเบื้องต้น ไม่คงรให้สะดือโดนน้ำ และเมื่อมีน้ำเหลืองหรือหนองไหล ก็ควรซับให้แห้ง ไม่ควรใช้ไม้พันสำลี แหย่เข้าไปในสะดือ เพราะอาจยิ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ค่ะ และไม่ควรโรแป้งหรือทายาอะไรไปค่ะ 

                         นอกจากนี้แล้ว ก็อาจเกิดจาก

                       -  มีภาวะปัสสาวะรั่วออกทางสะดือ (Patent Urachus) โดยปกติ ท่อสะดือที่ต่อระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับสะดือจะปิดลงสนิทหลังเราเกิด แต่ในบางกรณี ท่อสะดืออาจไมปิดลง  ทำให้เกิดการการรั่วไหลของน้ำปัสสาวะออกมาได้ และส่งกลิ่นเหม็น และมีโอกาสติดเชื้ออักเสบได้บ่อยๆ แต่อาการก็น่าจะเป็นมานานแล้ว

                        - มีซีสต์ในสายสะดือ (urachal cyst) เป็นการเกิดซีสต์หรือถุงน้ำขึ้นในท่อสะดือที่ไม่ได้ปิดสนิทตั้งแต่หลังเกิดมา ทำให้อาจมีของเหลวสะสมอยู่กลายเป็นถุงน้ำในท่อสะดือจนอาจเกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งอาจมีของเหลวสีขุ่นหรือมีเลือดปนไหลออกมาจากสะดือร่วมกับอาการสะดือเหม็น แต่ทั้งนี้ ก็น่าจะมีอาการมานานแล้วเช่นกัน