ถามแพทย์

  • มีอาการไอแล้วปวดหลัง ปวดท้องร่วมด้วย ทานยาไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร

  •  Pop Parichat Pratchapan
    สมาชิก
    สวัสดีคะ ก่อนอื่นน่ะค่ะหนูเคยเป็นโรคกระเพาะอาหารมาก่อนคะ เป็นๆหายๆ ทานข้าวไม่ค่อยเป็นเวลา แต่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา อาการต่างๆเริ่มเยอะขึ้นคะ อาทิตย์แรกคือเวลานอน จะนอนไม่ค่อยหลับเพราะปวดแสบร้อนช่วงกลางอกและท้องอย่างมาก ต้องใช้เวลาสักระยะถึงจะหายไป อาทิตย์ต่อมา ช่วง 4 วันก่อนนี้ วันแรกหนูไอแล้วรู้สึกปวดหลังด้านขวาค่ะ ไอทุกครั้งเจ็บทุกครั้ง แล้วอีกวันหนูมีไข้ พร้อมคลื่นไส้ แต่ไม่อาเจียน มีไข้อยู่ 2 วัน และวันที่ 4 อาการคลื่นไส้ลดน้อยลงแต่ยังไม่หาย และมีอาการปวดหลังอย่างมากๆบริเวณด้านบนซ้าย ปวดตลอดเวลา และปวดท้องร่วมด้วย ทานยาแก้ปวดก็ไม่หาย เวลาหายใจก็ปวด เดินก็ปวด บางช่วงปวดบริเวณหน้าอกขวาด้วย ทำยังไงถึงจะหายคะ

     สวัสดีคะคุณ Pop Parichat Pratchapan

    เรียนอย่างนี้ค่ะ ปัญหาตามประวัติคือ 

    1. ไข้ 
    2. ปวดหลัง
    3. ปวดท้อง
    4. ไอ
    5. คลื่นไส้
    6. เจ็บหน้าอกเวลาไอ

    ถ้าตามประวัตินะค่ะ คุณอาจจะมีปัญหาเรื่องของการติดเชื้อทางเดินหายใจค่ะ อาจจะเป็นทางเดินหายใจส่วนล่างค่ะ คือ ปอดติดเชื้อ หรือ หลอดลมอักเสบค่ะ ทำให้มีเรื่องของการไอมาเนื่องจากมีกระตุ้นที่ศูนย์การไอค่ะ เมื่อมีการไอมากจะทำให้มีเรื่องการเจ็บหรืออักเสบ ของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจได้ค่ะ ซึ่งคือที่หน้าอกค่ะ ทำให้เจ็บหน้าอกได้ค่ะ ตอนนี้ถ้าไข้ลดแล้วแต่ยังไออยู่อาจจะต้องมารักษาเรื่องของการไอต่อค่ะ เพราะมีบางครั้งเช่นกันที่อาการไข้หายแล้วแต่คนไข้ยังไอต่อเนื่องกันได้เป็นระยะหนึ่งค่ะ

    ส่วนเรื่องอาการปวดหลัง หมอ คงเรียนไว้สองอย่างค่ะ คือ 

    1. การมีแผลในกระเพาะอาหาร หรือ ลำไส้ ที่เป็นประจำ หรือ มีปัญหาตับอ่อนอักเสบ
    2. เรื่องของนิ่วในไต หรือ การติดเชื้อที่กรวยไตค่ะ

    สองอย่างนี้คงต้อมีการตรวจเพิ่มเติมค่ะ คือ อาจจะมีการส่องกล้องในเรื่องของกระเพาะอาหาร และ การเอกซเรย์ หรือ อัลตราซาวด์ในเรื่องของนิ่วค่ะ

    ช่วงนี้แนะนำเรื่องการกินยาลดกรด และยาแก้ไอก่อนนะค่ะ แต่ควรพบแพทย์ค่ะ