ถามแพทย์

  • ปวดขาหนีบเมื่อนั่งไปแล้วสักพักแล้วลุกขึ้น เป็นมา 2-3 เดือน เกิดจากอะไร ต้องไปแจ้งหมอว่าอย่างไร

  •  Thiraporn Kongklin
    สมาชิก
    มีอาการปวดขาหนีบเมื่อนังไปแล้วสักพัก แล้วลุกขึ้น ขาหนีบจะปวดตึง ก้าวขาไม่ออก สักระยะ จะหายไปเอง เป็นมา 2-3เดือนได้แล้ว พักหลังๆนั่งไม่ถึงนาทีลุกก็รู้สึกเลย ไม่ว่าจะนั่งในท่าไหน นั่งห้องน้ำ นั่งสมาธิ นั่งยองๆ ขอสอบถ่มหน่อยค่ะ ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง ถ้าไปตรวจต้องแจ้งหมออย่างไร

    สวัสดีค่ะ คุณ Thiraporn Kongklin,

                         อาการปวดขาหนีบ อาจเกิดจาก

                        1. กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อบริเวณขาหนีบเกิดการบาดเจ็บ เช่น จากการเคลื่อนไหวผิดท่า หรือจากอุบัติเหตุโดนกระแทก เป็นต้น มักมีจุดกดเจ็บที่ชัดเจน และจะเจ็บเป็นบางท่าทาง อย่างไรก็ตาม หากเป็นมานานต่อเนื่อง 2-3 เดือนแล้ว ก็ไม่น่าใช่

                        2. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ แต่มักคลำได้เป็นก้อนที่ขาหนีบด้วย

                        3. ไส้เลื่อนชนิดที่พบในผู้หญิง (femoral hernia) แต่ก็จะคลำได้ก้อนที่บริเวณขาหนีบด้วย 

                        4. มีการอักเสบติดเชื้อของชั้นผิวหนังและชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง แต่ก็จะมีอาการบวมแดงของผิวหนังร่วมด้วย

                         หากคลำไม่ได้ก้อนอะไร และผิวหนังไม่มีการบวมแดง ในเบื้องต้น อาจใช้การประคบร้อนบริเวณที่ปวด ทายานวดแก้ปวด หากปวดมาก อาจรับประทานยา เช่น ไดโคลฟีแนค (diclofenac), ไพรอกซิแคม (piroxicam) เป็นต้น หากอาการยังคงไม่หายไป ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ ซึ่งสามารถเล่ารายละเอียดของอาการตามที่กล่าวมาได้เลยค่ะ