ถามแพทย์

  • ตาข้างขวากระตุกมาเดือนกว่าแล้ว มีผลในการใช้ชีวิตประจำวันมาก สาเหตุจากอะไร

  •  silill
    สมาชิก

    มีอาการตากระตุกข้างขวามาเดือนกว่าๆแล้วค่ะ สร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตประจำวันมาก ตอนแรกกระตุกทุกวันเป็นอยู่2สัปดาห์ แล้วก็หายไป แล้วก็กลับมากระตุกอีกเรื่อยๆทุกวัน เดือนกว่าแล้วค่ะ อยากทราบสาเหตุ แล้วต้องกินวิตามินอะไรเพิ่มเพื่อลดอาการมั้ยคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ silill,

                       อาการเปลือกตากระตุก (blepharospasm) เกิดจากมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อรอบตาที่ควบคุมไม่ได้ บางคนมีเฉพาะเปลือกตากระตุก บางคนมีกล้ามเนื้อใบหน้าหรือมุมปากกระตุกร่วมด้วย แบ่งสาเหตุออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ  

                     1. ชนิดไม่ทราบสาเหตุ เป็นชนิดที่พบบ่อย มักเป็นข้างเดียว ตัวกระตุ้นที่อาจทำให้เกิด เช่น ความเครียด การอดนอน ร่างกายอ่อนเพลีย แสงที่จ้าเกินไป ตาแห้งจากการอ่านหนังสือนานๆ ขับรถนานๆ ขาดน้ำ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ ขาดวิตามินเกลือแร่บางอย่าง เช่น วิตามินบี 12 แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นต้น

                    2. ชนิดทราบสาเหตุ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคสมองขาดเลือดมาเลี้ยงบริเวณก้านสมอง มีเนื้องอกไปกดทับเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7  หรือมีหลอดเลือดไปกดทับเส้นประสาทคู่ที่ 7 โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ผลข้างเคียงจากยาที่ใช้รักษาโรคจิตเภท เป็นต้น

                    โดยทั่วไปอาการกระตุกแต่ละครั้งจะเป็นเพียงไม่กี่วินาทีหรือนาที แต่หากมีอาการกระตุกต่อเนื่องหรือเป็นนานมากกว่า 2 สัปดาห์ หรือรู้สึกรำคาญ มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษา หากไม่ได้มีสาเหตุที่ชัดเจน ก็จะให้ยาทานในเบื้องต้น หากอาการไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาฉีดโบทอกซ์ หรือการผ่าตัด เป็นต้น

                     สำหรับการดูแลตนเองในเบื้องต้น ได้แก่ การหลีกเลี่ยงการใช้สายตาในที่สว่างมากเกินไปหรือแสงน้อยไป หลีกเลี่ยงการใช้สายตาจ้องเพ่งนานๆ พักการใช้สายตาเป็นระยะๆ การพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ดื่มน้ำเยอะๆ หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ ทานอาหารที่มีวิตามินบี 12 แคลเซียมและแมกนีเซียมสูง เช่น นมวัว โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง เต้าหู้ ปลาตัวเล็กๆ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หอยลาย ผักคะน้า ฟักทอง ถั่วต่างๆ ธัญพืช ข้าวกล้อง ไข่ เป็นต้น ขณะกำลังมีการกระตุก ควรพักการใช้สายตา ผ่อนคลาย และนวดเบาๆ บริเวณรอบๆ ตาและใบหน้าข้างที่เป็น ประคบด้วยน้ำร้อน เป็นต้น