ถามแพทย์

  • อายุ 23 ปี คันบริเวณแคม และมีผื่นขึ้น ทายาแล้วอาการคันดีขึ้น แต่มีตกขาวเป็นก้อนเหมือนนมบูด เกิดจากอะไร

  •  namsommut.tt
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันอายุ 23 ปี นน.65 ส่วนสูง170 มีอาการคันบริเวณแคมและช่องคลอด ก่อนหน้านี่เป็นประจำเดือนและมีการแพ้ผ้าอนามัยเกิดขึ้น ทำให้แคมมีอาการคันมากๆซึ่งทนไม่ไหวและเกา หลังจากประจำเดือนหายรู้สึกบริเวณแคมมีผื่นขึ้นคันมากๆ เกาแล้วก็แสบ ส่องกระจกดูพบว่ามีการคันเป็นวงกว้าง จึงใช้ยาคามาโซนและซีม่าทา ตอนทาแสบมากๆค่ะ แต่บริเวณช่องคลอดที่มีอาการคันอาจจะไม่ได้คันตลอด แต่เมื่อรู้สึกตัวที่นึกถึงมันก็จะคันทันที ตอนอาบน้ำได้ลองเอากระจกส่องดูเมื่อ 2-3 วันก่อนพบตกข้าวเป็นก้อนเหมือนนมบูด สีปกติแต่ไม่มีกลิ่น ล่าสุดยังคันเลยส่องดูอีกครั้งก็ยังพบตกข้าวแต่ครั้งนี้พบเป็นตกขาวลักษณะเมือกใสๆ ไม่มีกลิ่นค่ะ แต่เวลาฉี่นอกจากจะคันแล้วยังรู้สึกแสบๆร้อนๆบริเวณช่องคลอดค่ะ ส่วนบริเวณแคมหลังจากทาคามาโซนและซีมามีความรู้สึกคันน้อยลง แต่แคมจะลอกเป็นคุยและมีความคล้ำเกิดขึ้นค่ะ อาการเหล่านี้เป็นมาได้ประมาณตั้งแต่เป็นประจำเดือนครั้งล่าสุดคือวันที่ 23 พ.ย. 65 (วันสุดท้ายของการเป็นประจำเดือน) แล้วประจำเดือนรอบต่อไปกำลังจะมาประมาณวันที่ 18 ธ.ค. 65 ก็ยังไม่หายคันเลย เบื้องต้นควรทำอย่างไรได้บ้าง โดยที่ไม่ต้องไปพบแพทย์ ส่วนตัวในตอนนี้คือ ไม่ใส่กกน.ที่รัด ไม่ล้างสวนเข้าไปในช่องคลอด แต่ก็ไม่แน่ใจเรื่องน้ำยาซักล้าง และสบู่อาบน้ำที่ใช้ค่ะ อาการที่เป็นอันตรายไหมคะ กังวลเรื่องติดเชื้อและเรื่องมะเร็งปากมดลูกค่ะ ปล.เคยเป็นแบบนี้แต่นานมากแล้วค่ะ เป็นช่วงเล่นกีฬาเนื่องจากใส่กางเกงที่รัดและเหงื่อออก แต่จำไม่ได้ว่าหายไปเพราะอะไรค่ะ ขอบคุณค่ะหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ namsommut.tt,

                       อาการคันบริเวณอวัยวะเพศภายนอกและในช่องคลอด อาจเกิดจาก

                      1. การติดเชื้อรา นอกจากมีอาการคันเป็นหลักแล้ว อาจมีอาการเจ็บแสบได้ และผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศภายนอกจะเกิดเป็นผื่นสีแดง หรือผิวเกิดการลอกแดง และหากมีการติดเชื้อในช่องคลอดร่วมด้วยก็จะมีตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวมีปริมาณมาก มีสีขาวขุ่นจับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก หรือนมบูด

                   2. การระคายเคืองหรือแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆ เช่น อาจแพ้ผงซักฟอก  หรือน้ำยาที่ใช้ซักกางเกงใน แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผ้าอนามัย แพ้แป้งที่นำมาทาบริเวณอวัยวะเพศภายนอก รวมถึงแพ้เนื้อผ้ากางเกงใน เป็นต้น แต่มักจะไม่ได้ทำให้มีตกขาวที่ผิดปกติออกมา

                   3. การเปียกชื้นบริเวณอวัยวะเพศเช่น ชุดชั้นในรัดมากเกินไป ไม่ระบายอากาศ  มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือเหงื่อออกมาก แต่จะไม่ได้ทำให้เกิดมีผื่นและตกขาว

                   4. มีโรคหูดบริเวณอวัยวะเพศ แต่ก็จะต้องเห็นติ่งเนื้อบริเวณอวัยวะเพศ

                   5. เป็นโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น แต่ผิวหนังบริเวณอื่นๆ ก็จะเกิดผื่นคันด้วย

                    สำหรับยาลามาโซน และ ซีม่า มีตัวยาคือ clotrimazole เหมือนกัน ดังนั้น ก็ควรเลือกใช้เฉพาะยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งก็พอค่ะ และหากทาแล้ว อาการคันน้อยลง ก็แสดงว่าน่าจะเกิดจากการติดเชื้อราค่ะ อย่างไรก็ตาม หากยังคงมีตกขาวเป็นก้อนเหมือนนมบูดอยู่ แสดงว่าน่าจะมีการติดเชื้อราในช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งการรักษาคือการสอดยาฆ่าเชื้อราในช่องคลอดค่ะ แนะนำควรปรึกษาเภสัชกร หรือไปพบแพทย์เพื่อจ่ายยาให้ค่ะ

                    ส่วนการดูแลในด้านอื่นๆ ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจแพ้ต่างๆ เช่น ไม่ทาแป้ง ทาโลชั่น ฉีดน้ำหอมใกล้อวัยวะเพศ ไม่ใช้สบู่หรือน้ำยาต่างๆ มาล้างอวัยวะเพศ ควรใช้แค่น้ำเปล่าไปก่อน ไม่ใส่กางเกงชั้นในที่รัดแน่นเกินไป และกางเกงชั้นในนั้น หลังการซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาควรล้างน้ำให้สะอาด โดยต้องไม่มีฟองเหลือ หลังการเข้าห้องน้ำควรเช็ดทวารหนักและบริเวณอวัยวะเพศให้แห้งทุกครั้ง พยายามหลีกเลี่ยงการเกา 

                     ส่วนการติดเชื้ออื่นๆ เช่น การติดเชื้อปรสิตในช่องคลอด เชื้อหนองใน เป็นต้น จะติดมาจากการมีเพศสัมพันธ์ และอาการคือตกขาวจะมีกลิ่นเหม็น สีเขียวเหลืองคล้ายหนอง มักมีเจ็บในช่องคลอด ไม่ค่อยทำให้เกิดอาการคัน ดังนั้น หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้มีตกขาวดังกล่าว ก็ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเหล่านี้ค่ะ

                     สำหรับมะเร็งปากมดลูก หากเป็นในระยะก่อนเป็นมะเร็ง จะไม่มีอาการใดๆ ต้องอาศัยการตรวจภายในเพื่อตรวจหาดูเซลล์ปากมดลูกเท่านั้นค่ะ ดังนั้น หากยังไม่เคยตรวจ แนะนำควรตรวจคัดกรองหากมะเร็งปากมดลูกด้วย แม้จะมีหรือไม่มีอาการอะไรก็ตามค่ะ