ถามแพทย์

  • มีผื่นแดง ที่หนังหุ้มและที่ปลายอวัยวะเพศชาย ต่อมาบวมแดง คัน เจ็บเล็กน้อย เป็นอะไร รักษาอย่างไร

  •  loilliol
    สมาชิก
    คือ เริ่มแรก เวลาถอกออกมา จะเห็นเป็นผื่นแดงเม็ดเล็กๆ บริเวนหนังด้านใน รอบๆคอหยัก รวมถึงส่วนหัวที่ถูกหนังหุ้มไว้ด้วยนิดหน่อย แล้วตอนนี้ผื่นก็ค่อยๆหายไป แต่หนังบริเวณด้านในเกิดการบวมแดงขึ้นมา มีอาการคันเล็กน้อย เวลาล้างก้จะเจ็บนิดๆ อยากทราบว่าเป็นที่อะไร แล้วควรรักษาในเบื้องต้นอย่างไร ใช้ยาอะไรดีครับ ขอบคุณครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ loilliol,

                       อาการมีผื่นแดง ที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศและที่ปลายอวัยวะเพศ และอาการบวมแดงที่เกิดตามมา ร่วมกับอาการคัน เจ็บ อาจเกิดจาก 

                        1. ปลายองคชาตอักเสบ (balanitis) โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียก็ได้ อาการคือผิวหนังที่บริเวณปลายองคชาตจะบวมแดง หรืออาจมีผื่นแดง หากเกิดจากการติดเชื้อรา มักมีอาการคัน เจ็บแสบ หากเป็นเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย สาเหตุมักเกิดจากการดูแลความสะอาดไม่เหมาะสม จึงทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือราสะสมบริเวณหนังหุ้มปลายมากเกินไป 

                        2. การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เป็นต้น แต่มักมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลจากอวัยวะเพศร่วมด้วย

                        3. ผื่นแพ้หรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ เช่น แป้ง โลชั่น น้ำหอม สบู่ น้ำยาล้างอวัยวะเพศ รวมถึงถุงยางอนามัย เป็นต้น

                        4. การโดนแมลงสัตว์กัดต่อย

                       ในเบื้องต้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งต่างๆ กับอวัยวะเพศ เช่น การทาแป้ง สเปรย์น้ำหอม โลชั่นต่างๆ เป็นต้น เวลาอาบน้ำทุกครั้ง ควรถลกหนังหุ้มปลาย และล้างทำความสะอาด โดยอาจใช้นิ้วถูเบาๆ แต่ไม่ควรใช้สบู่ที่มีความรุนแรงฟอก นอกจากนี้ทุกครั้งที่ปัสสาวะ ควรถลกหนังหุ้มปลาย เพื่อป้องกันปัสสาวะตกค้างหมักหมมด้วย และก่อนใช้มือจับอวัยวะเพศ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนด้วย แต่หากอาการไม่ดีขึ้น แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ