พัฒนาการทารกด้านภาษา ส่งเสริมได้ด้วย Baby Sign Language

แม้ว่าลูกน้อยยังไม่สามารถพูดได้ แต่ความจริงแล้วพัฒนาการทารกด้านภาษาเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่แรกเกิด โดยเด็กจะร้องไห้เพื่อสื่อสารสิ่งที่ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่รู้ เช่น หิว ไม่สบาย เหนื่อย หรือโมโห อย่างไรก็ตาม เด็กแต่ละคนย่อมมีพัฒนาการที่แตกต่างกันไป และบางรายอาจพูดช้ากว่าวัย ซึ่งการสอน Baby Sign Language ให้แก่ลูกจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางภาษาให้แก่เจ้าตัวเล็กได้ ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจสิ่งที่ทารกต้องการจะสื่อสาร และยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษา Baby Sign Language ได้จากข้อมูลต่อไปนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมว่าควรสอนลูกอย่างไรและควรเริ่มต้นเมื่อใดดี

พัฒนาการทารก

Baby Sign Language คืออะไร ?

Baby Sign Language คือ การทำมือเป็นสัญลักษณ์หรือท่าทางต่าง ๆ แทนการใช้เสียงพูด เพื่อให้สื่อสารกับลูกน้อยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากทารกยังไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้ในช่วงวัยนี้ แต่สามารถฟังและเรียนรู้ศัพท์ต่าง ๆ ได้  

Baby Sign Language มีประโยชน์ต่อพัฒนาการทารกและคุณพ่อคุณแม่อย่างไร ?

หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าการสอน Baby Sign Language ให้แก่ลูกน้อยอาจส่งผลให้พัฒนาการทางภาษาของลูกล่าช้า มีบางงานวิจัยที่พบว่าการสอนสัญลักษณ์มือให้ลูกนั้นจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทารกด้านภาษาและการสื่อสารให้เด็กสามารถพูดได้เร็วขึ้น โดยเด็กที่เรียนรู้สัญลักษณ์และท่าทางต่าง ๆ อาจสามารถสื่อสารกับพ่อแม่ได้เร็วกว่าเด็กทั่วไป นอกจากนี้ Baby Sign Language ยังมีประโยชน์ทางด้านจิตใจอีกด้วย เช่น ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจพร้อมทั้งความเคารพตัวเองให้แก่ลูกน้อย และลดอารมณ์เกรี้ยวกราด เพราะเด็กสามารถแสดงสิ่งที่ต้องการให้พ่อแม่เข้าใจได้ ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวเล็กอาจใช้ท่าทางหรือภาษากายเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกหวาดกลัวจนไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้  

นอกจากช่วยพัฒนาความสามารถทางการสื่อสารของเด็กแล้ว Baby Sign Language ยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจความคิดและบุคลิกภาพของลูกน้อย ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เนื่องจากการสอนภาษากายเป็นการสื่อสารกับลูก และช่วยลดความหงุดหงิด เพราะเข้าใจสิ่งที่ลูกต้องการจะสื่อสารมากขึ้น

เริ่มเสริมพัฒนาการทารกด้วย Baby Sign Language เมื่อไรดี ?

คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มสอน Baby Sign Language ให้ลูกน้อยได้เมื่อสังเกตว่าลูกเริ่มมีพัฒนาการด้านภาษา โดยทั่วไปแล้ว เด็กจะเรียนรู้ท่าทางหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้เร็วกว่าการพูด ดังนั้น การเริ่มสอนสัญลักษณ์มือและภาษากายให้แก่ลูกตั้งแต่ยังเล็กจึงเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเด็กบางคนสามารถเข้าใจสัญลักษณ์พื้นฐานได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของลูกน้อยอาจยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ลูกไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อและโต้ตอบด้วยท่าทางต่าง ๆ ได้จนกว่าอายุจะครบ 8 หรือ 9 เดือน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มสอน Baby Sign Language ให้เจ้าตัวเล็กได้เสมอเมื่อคิดว่าลูกพร้อม แม้เด็กจะยังไม่สามารถทำท่าทางตอบกลับได้ก็ตาม แต่หากเจ้าตัวน้อยเริ่มโต้ตอบหรือแสดงสิ่งที่ต้องการด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ การสื่อสารกับลูกจะเป็นเรื่องง่าย โดยอาจพูดคุยกับลูกขณะร้องเพลง เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสารควบคู่ไปกับพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็กด้วย  

เคล็ดลับในการสอน Baby Sign Language เพื่อกระตุ้นพัฒนาการทารก  

ก่อนเริ่มสอน Baby Sign Language ให้ลูกน้อย ควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ จากหนังสือหรืออินเทอร์เน็ตให้ละเอียดก่อน และอาจใช้เคล็ดลับดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้การสอนสัญลักษณ์มือสนุกและง่ายขึ้น

  • ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มสอน Baby Sign Language ให้ลูกน้อยตั้งแต่อายุเท่าไรก็ได้ แต่ควรจำไว้เสมอว่าเด็กส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจสัญลักษณ์เหล่านั้นจนกว่าจะอายุครบ 8 เดือน ดังนั้น พ่อแม่ไม่ต้องกังวลหากยังไม่มีการแสดงท่าทางโต้ตอบจากลูก
  • อดทน จุดประสงค์ของการสอน Baby Sign Language ให้ลูก คือ การเสริมสร้างพัฒนาการทารกด้านภาษา และช่วยลดความหงุดหงิดเมื่อสื่อสารกับลูกไม่เข้าใจ ดังนั้น อย่าหมดกำลังใจหากลูกใช้สัญลักษณ์ไม่ถูกต้อง หรือไม่โต้ตอบด้วยท่าทางที่สอนในทันที
  • สอนสัญลักษณ์ง่าย ๆ ควรเริ่มสอน Baby Sign Language ให้ลูกน้อยด้วยท่าทางง่าย ๆ หรือสัญลักษณ์ที่เด็กสนใจก่อน เช่น สัญลักษณ์ที่สื่อความหมายของกิจวัตรประจำวัน กิจกรรม หรือวัตถุต่าง ๆ ที่เด็กคุ้นเคย เช่น ดื่มน้ำ รับประทานอาหาร พ่อ แม่ นม นก หรือสุนัข เป็นต้น
  • สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูก ด้วยการอุ้มเจ้าตัวเล็กนั่งบนตัก แล้วประคองแขนและมือของลูกเป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ ขณะสอน Baby Sign Language ให้ลูก โดยพยายามแสดงท่าทางขณะสื่อสารหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ กับลูกน้อย เช่น อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหาร หรือเล่านิทาน นอกจากนี้ ควรชื่นชมและให้กำลังใจเมื่อเจ้าตัวเล็กพยายามใช้ท่าทางหรือสัญลักษณ์แสดงสิ่งที่ต้องการในการสื่อสาร

Baby Sign Language ขั้นพื้นฐานสำหรับทารก

คุณพ่อคุณแม่อาจใช้ท่าทางประกอบง่าย ๆ ขณะสื่อสารกับลูก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและช่วยให้ลูกน้อยเข้าใจความหมายของคำต่าง ๆ ดังนี้

  • ดีใจ วางฝ่ามือให้ขนานกับอก แล้วผายฝ่ามือออกจากลำตัวเป็นมุม 45 องศา
  • รัก ยกมือขึ้นข้างหนึ่งแล้วพับนิ้วกลางและนิ้วนางลง โดยให้นิ้วที่เหลือชูขึ้น
  • เศร้า เริ่มจากก้มศีรษะลง แล้วแบมือทั้ง 2 ข้างขึ้นให้อยู่ระดับใบหน้า กางนิ้วออกจากกัน จากนั้นดึงมือลงให้อยู่ในระดับอก
  • ร้องไห้ กำมือทั้ง 2 ข้างโดยให้นิ้วชี้เหยียดตรง จากนั้นยกนิ้วชี้ข้างหนึ่งแตะบริเวณใต้ตาแล้วดึงนิ้วชี้ลง ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง โดยสลับนิ้วกัน
  • หัวเราะ กำมือทั้ง 2 ข้างโดยให้นิ้วชี้เหยียดออก จากนั้นชี้นิ้วไปที่มุมปากทั้ง 2 ข้าง แล้วดึงมือขึ้นไปที่แก้มพร้อมกับยิ้ม
  • กอด ยกแขนทั้ง 2 ข้างไขว้กันแนบลำตัว แล้วใช้มือจับต้นแขนทั้ง 2 ข้าง  
  • จูบ ใช้ปลายนิ้วสัมผัสกันเป็นรูปขนมจีบ นำมือแตะที่ปากพร้อมทำท่าห่อปากประกอบ จากนั้นยกมือขึ้นข้างแก้มเพื่อแสดงการส่งจูบ
  • นอนหลับ ยกฝ่ามือขึ้นมาระดับใบหน้าโดยหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว จากนั้นกำมือแล้วเคลื่อนกำปั้นลงพร้อมทำท่าหลับตาประกอบ
  • เล่น ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นแล้วกำมือโดยให้นิ้วชี้และนิ้วก้อยเหยียดตรง จากนั้นหมุนข้อมือเข้าหากัน ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง
  • ดี แบฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นมาระดับอก ใช้ฝ่ามืออีกข้างแตะที่คาง จากนั้นดึงมือลงให้สัมผัสกับฝ่ามือที่แบไว้
  • หนาว ห่อไหล่ขึ้นแล้วกำมือทั้ง 2 ข้างยกขึ้นระดับไหล่ พร้อมทำท่าทางสั่นเล็กน้อยเพื่อแสดงอาการหนาว
  • เจ็บปวด กำมือทั้ง 2 ข้างให้ขนานกันในแนวนอน กางนิ้วชี้ออกแล้วดึงมือทั้ง 2 ข้างเข้าหากัน
  • เปิด ยกมือแบขึ้นเข้าหาลำตัวโดยให้ขอบฝ่ามือทั้ง 2 ข้างชิดกัน แล้วดึงมือทั้ง 2 ข้างออกจากกัน
  • ปิด ยกมือแบขึ้นเข้าหาลำตัวโดยให้ขอบฝ่ามือทั้ง 2 ข้างห่างกันเพียงเล็กน้อย แล้วดึงมือทั้ง 2 ข้างเข้าหากัน
  • ไป กำมือทั้ง 2 ข้างขึ้นให้ขนานกับอกในแนวนอน เหยียดนิ้วชี้เข้าหากัน จากนั้นวนนิ้วชี้ข้ามกันไปมาเป็นวงกลม
  • หยุด ยกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นให้ขนานกับอกในแนวนอน จากนั้นใช้สันมืออีกข้างวางทับกลางฝ่ามือ
  • ขอร้อง วางฝ่ามือลงบนอก แล้วเคลื่อนฝ่ามือวนเป็นวงกลม
  • เอาอีก ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นให้ขนานกันในแนวนอนระดับอก จากนั้นใช้ปลายนิ้วสัมผัสกันเป็นรูปขนมจีบ แล้วดึงมือทั้ง 2 ข้างเข้าออกสลับกัน โดยให้ปลายนิ้วของมือแต่ละข้างสัมผัสกัน
  • หมดแล้ว ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้น กำมือโดยหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว จากนั้นแบมือแล้วหันฝ่ามือออกจากลำตัวโดยให้นิ้วกางออกจากกัน
  • ช่วยด้วย ยกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นให้ขนานกับระดับอกในแนวนอน กำมืออีกข้างโดยให้นิ้วโป้งเหยียดตรงแล้ววางลงบนฝ่ามือที่แบไว้ จากนั้นยกกำปั้นขึ้นจากฝ่ามือเล็กน้อย