6 วิธีรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

วิธีรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดมีหลากหลายวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่ากลิ่นเต่าหรือกลิ่นตัวจะเป็นเรื่องปกติ แต่กลิ่นเต่าก็อาจทำให้บางคนหมดความมั่นใจได้ ดังนั้น ผู้ที่มีกลิ่นเต่าอาจจำเป็นต้องลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย หรือการหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เพื่อกำจัดปัญหากลิ่นเต่าให้หมดไป

กลิ่นเต่าหรือกลิ่นตัวอาจเกิดขึ้นได้เมื่อแบคทีเรียบนผิวหนังสัมผัสกับเหงื่อ โดยกลิ่นเต่าอาจมีทั้งกลิ่นหอม กลิ่นเหม็น หรือไม่มีกลิ่น ซึ่งกลิ่นอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาหารที่กิน ฮอร์โมน ความเครียด สภาพอากาศ น้ำหนักตัว หรือโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ

วิธีรักษากลิ่นเต่าให้หายขาด

วิธีรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดด้วยตัวเอง

โดยส่วนใหญ่แล้ว กลิ่นเต่ามักไม่ใช่สัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างอาจช่วยรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดหรือลดกลิ่นเต่าให้น้อยลงได้ โดยวิธีการรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดอาจทำได้หลายวิธี เช่น

1. การอาบน้ำเป็นประจำทุกวัน

การอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง พร้อมกับใช้สบู่ที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย อาจช่วยทำความสะอาดผิวหนัง และรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดหรือลดน้อยลงได้ เพราะการอาบน้ำจะช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรีย คราบเหงื่อ รวมไปถึงสิ่งสกปรกที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นเต่า 

นอกจากนี้ เพื่อลดการสะสมของเหงื่อ ควรอาบน้ำทันทีหลังจากทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ เช่น การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย อีกทั้งยังควรเช็ดรักแร้ให้แห้งหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพราะความแห้งอาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นเต่าได้

2. การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อหรือระงับกลิ่นกาย

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องระงับเหงื่อหรือระงับกลิ่นกายหลังอาบน้ำ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดกลิ่นเต่าหรือรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดได้ โดยผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อมักมีส่วนผสมของเกลืออะลูมิเนียมหลายชนิด ซึ่งช่วยอุดกั้นต่อมเหงื่อเพื่อให้เหงื่อออกน้อยลง จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีกลิ่นเต่าเนื่องจากเหงื่อออกเยอะ

นอกจากนี้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่มีสารช่วยระงับกลิ่นกาย หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเพียงอย่างเดียว หากเหงื่อออกน้อย โดยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอาจช่วยเพิ่มความหอมให้แก่กลิ่นตัวหรือกลิ่นรักแร้ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย

3. การเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม

การเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมต่อการทำกิจกรรมอาจช่วยรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดได้ โดยสำหรับเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวัน ควรใส่เสื้อผ้าที่หลวม และทำจากเนื้อผ้าต่าง ๆ เช่น เนื้อผ้าคอตตอน ผ้าไหม หรือเนื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ เพราะเป็นเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่ทำให้อับชื้น

สำหรับเสื้อผ้าที่ใส่ออกกำลังกาย ควรเป็นเนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ เพราะเป็นเนื้อผ้าที่ดูดซับเหงื่อได้ดี จึงอาจช่วยลดความชื้นบนผิวหนังบริเวณรักแร้ได้ อย่างไรก็ตาม ควรเปลี่ยนเสื้อทุกครั้งเมื่อมีเหงื่อออกเยอะ เพราะเสื้อผ้าที่แห้งและสะอาดอาจช่วยลดกลิ่นเต่าให้น้อยลงได้

4. การกำจัดขนรักแร้

วิธีรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดหรือลดกลิ่นเต่าให้น้อยลงอาจทำได้ด้วยการกำจัดขนรักแร้ เนื่องจากเหงื่ออาจเกาะตามขน และกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ โดยการกำจัดขนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การถอน การโกน หรือการเลเซอร์ อาจช่วยให้เหงื่อระเหยได้เร็วยิ่งขึ้น โอกาสที่เหงื่อสัมผัสกับแบคทีเรียน้อยลง และช่วยให้กลิ่นเต่าน้อยลง

5. การหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด

การกินอาหารชนิดหนึ่งในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อกลิ่นตัวหรือกลิ่นเต่าได้ ดังนั้น การลดหรือเลิกกินอาหารบางชนิดอาจช่วยรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดได้ โดยเฉพาะอาหารรสเผ็ดหรืออาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม เครื่องเทศต่าง ๆ หัวหอม แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

6. การจัดการกับความเครียด

ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเต่า เนื่องจากความเครียดอาจกระตุ้นต่อมเหงื่อให้ผลิตเหงื่อออกมามากขึ้น ดังนั้น การจัดการกับความเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การทำงานอดิเรกที่ชอบ การนั่งสมาธิ การออกกำลังกาย การเล่นโยคะ อาจช่วยคลายเครียด ลดการสร้างเหงื่อ และรักษากลิ่นเต่าให้หายขาดหรือดีขึ้นได้ 

นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดชุดเครื่องนอนและผ้าห่มเป็นประจำ เพราะชุดเครื่องนอนหรือผ้าห่มที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโต และอาจส่งผลให้กลิ่นเต่าหรือกลิ่นตัวยังคงอยู่หรือไม่ดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ หากกลิ่นเต่าหรือกลิ่นตัวไม่ดีขึ้น โดยแพทย์อาจรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารระงับเหงื่อหรือระงับกลิ่นกายที่แรงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป การจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อลดแบคทีเรียบนผิวหนัง การฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้เพื่อลดการสร้างเหงื่อ ทั้งนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดเพื่อนำต่อมเหงื่อออก หากกลิ่นเต่ามีอาการรุนแรงหรือเป็นผู้ที่มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ