น้ำเดิน อาการสำคัญที่คุณแม่ใกล้คลอดควรรู้

ในช่วงใกล้คลอด คุณแม่หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับอาการน้ำเดินว่าจะเป็นอย่างไร เกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะสังเกตได้อย่างไรว่าของเหลวที่ไหลออกมาเป็นเพียงปัสสาวะหรือน้ำเดินที่เป็นสัญญาณเตือนใกล้คลอด ซึ่งคุณแม่มือใหม่สามารถหาคำตอบได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้

2113 น้ำเดิน rs

ทำความรู้จักกับน้ำเดิน

น้ำเดิน หรือที่ในทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนเจ็บครรภ์ (Premature Rupture of Membranes: PROM) เกิดขึ้นเมื่อถุงน้ำคร่ำที่ห่อหุ้มตัวทารกนั้นกำลังจะแตกหรือรั่วก่อนการเจ็บครรภ์ ทำให้มีน้ำคร่ำไหลออกมาจากช่องคลอด โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 37 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่บอกว่าทารกพร้อมลืมตาออกมาดูโลกแล้ว อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีคุณแม่ก็อาจเผชิญอาการน้ำเดินในระยะก่อนหน้านี้ได้เช่นกัน

จะเป็นอย่างไรถ้าน้ำเดินเกิดก่อนกำหนด ?

ภาวะน้ำเดินก่อนกำหนด (Preterm PROM) สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงก่อนสัปดาห์ที่ 37 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น เคยมีน้ำเดินก่อนกำหนดในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน ถุงน้ำคร่ำอักเสบติดเชื้อ ปากมดลูกสั้น มีเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ มีน้ำหนักตัวน้อยหรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน สูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติดในระหว่างที่ตั้งครรภ์ เป็นต้น

โดยปกติแล้วเมื่อคุณแม่มีน้ำเดินในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนกำหนดคลอด หรือตั้งแต่หลังสัปดาห์ที่ 34 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป แพทย์มักให้รอดูอาการที่โรงพยาบาลว่าคุณแม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะคลอดบุตรหลังมีน้ำเดินประมาณ 12 ชั่วโมง แต่หากไม่สามารถคลอดเองได้ แพทย์มักเร่งให้เกิดการคลอดบุตรเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น แต่หากคุณแม่มีน้ำเดินในช่วงสัปดาห์ที่ 24-34 ของการตั้งครรภ์ แพทย์จะยื้อเวลาเพื่อให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการที่สมบูรณ์มากที่สุด และคุณแม่อาจได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของปอดทารกในครรภ์

ทั้งนี้ คุณแม่ที่มีน้ำเดินก่อนกำหนดอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นในระหว่างที่ตั้งครรภ์ได้ ดังนี้

น้ำเดินเป็นอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำที่ไหลเป็นแค่ปัสสาวะหรือน้ำเดิน ?

อาการที่สามารถเห็นได้ชัดของน้ำเดิน คือ มีของเหลวที่อาจจะค่อย ๆ ไหล หรือไหลทะลักออกมาจากช่องคลอด และอาจพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกเหมือนกลั้นปัสสาวะไม่ได้ มีของเหลวไหลออกจากช่องคลอดมากกว่าปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอด หรือรู้สึกได้ถึงแรงดันภายในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น แม้อาการน้ำเดินอาจทำให้คุณแม่หลายคนคิดว่าเป็นปัสสาวะ แต่ปกติแล้วน้ำคร่ำมักจะไม่มีสีและมีกลิ่นที่ต่างจากปัสสาวะ ดังนั้น หากคุณแม่พบว่ามีของเหลวในลักษณะดังกล่าวไหลออกมาจากช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน