ถามแพทย์

  • คุณน้าเป็นโรคsle(โรคพุ่มพวง) มียารักษาอยู่ และมียารักษาความดัน เบาหวาน ไขมันสูงด้วย ต้องกินยาไปตลอดหรือไม่ แล้วต้องดูแลตนเองอย่างไร

  •  Kittirat910
    สมาชิก
    สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีเรื่องร้อนใจมากๆครับ น้าของผมชื่อ น.ส.จรูญ อายุ50ปี ก่อนหน้านี้รับยาลดน้ำตาลมาตลอด3ปี เมื่อเดือนที่แล้ว พ.ย.2563 ตรวจพบเจอเป็นโรคsle ยาที่กินมียาลดไขมัน และ ก็ยาที่เกี่ยวกับโรคale(ผมไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร) ปัญหาตอนนี้คือ ระยะเวลา1สัปดาห์ น้าน้ำหนักลงแบบน่ากลัวมากครับ แต่กินข้าวได้เยอะกว่าเมื่อก่อน ดูอ่อนเพลีย ประมาณอาทิตย์หน้าหมอที่ รพ.นัดตรวจดูอาการ ผมอยากรู้ว่าโรคนี้อัตรายแค่ไหน ยาลดไขมัน ลดน้ำตาล ลดความดัน ต้องกินตลอดหยุดไม่ได้ใช่มั๊ยครับ แล้วการดูแลผู้ป่วยโรคนี้ ควรทำอย่างไรบ้างครับเกี่ยวกับเรื่องอาหาร ขอบพระคุณครับ
    Kittirat910  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Kittirat910

    โรค SLE หรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเองชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายมีความผิดปกติ โดยภูมิคุ้มกันจะต่อต้านและทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะต่าง ๆ จนเกิดเป็นอาการอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีอาการป่วยรู้สึกเหนื่อยล้า มีผื่นแดงตามใบหน้า ตาแห้ง ตัวบวม ขาบวม ปวดหัว ปวดบวมตามข้อต่อกระดูก ผมร่วง ร่วมกับมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วยได้

    โดยการรักษาโรค SLE หลักๆคือการใช้สเตียรอยด์ร่วมกับยากดภูมิเพื่อช่วยควบคุมอาการ ไม่ให้ภูมิคุ้มกันไปทำลายระบบต่างๆของร่างกาย หากมีภาวะไขมันสูง หรือน้ำตาลในเลือดสูง สามารถกินยาลดไขมันหรือยาลดน้ำตาลในเลือดร่วมไปด้วยได้

    การที่มีน้ำหนักลง อ่อนเพลีย กินได้น้อยลงดังกล่าวมานั้น อาจจะเป็นอาการของตัวโรค SLE เองจากการยังคุมได้ไม่ดี หรือเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางตัวที่ใช้ ถ้ามีอาการเป็นต่อเนื่อง ควรเอายาที่กินกลับไปปรึกษาแพทย์ที่ดูแลโดยตรงอีกครั้ง ส่วนใหญ่กลุ่มยาความดัน ยาลดน้ำตาล และยาลดไขมัน มักจะต้องกินไปตลอดชีวิต รวมไปถึงยารักษาโรค SLE ด้วย เพียงแต่แพทย์จะพยายามปรับยาให้ใช้น้อยที่สุดเมื่ออาการของโรคควบคุมได้ดีแล้ว