น้ำมันปาล์ม กับประโยชน์ต่อสุขภาพที่ควรรู้

น้ำมันปาล์ม เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากผลของต้นปาล์มน้ำมันซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก มักถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารประเภททอด และยังถูกนำมาใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง สบู่ ยาสีฟัน น้ำมันหล่อลื่น และหมึกอีกด้วย นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มยังอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้านทั้งช่วยป้องกันภาวะขาดวิตามินเอ ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี และอาจช่วยบำรุงสมองได้ด้วย

น้ำมันปาล์มปริมาณ 14 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ จะให้พลังงาน 114 แคลอรี่ ซึ่งเป็นพลังงานจากไขมันทั้งหมดโดยครึ่งหนึ่งของไขมันทั้งหมดเป็นไขมันอิ่มตัว นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มยังอุดมไปด้วยวิตามินอีที่มีสารโทโคไตรอีนอล และน้ำมันปาล์มแดงยังมีสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอได้อีกด้วย จึงเชื่อกันว่าน้ำมันปาล์มอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน

น้ำมันปาล์ม

ประโยชน์ของน้ำมันปาล์ม

เนื่องจากน้ำมันปาล์มมีสารอาหารบางชนิด หลายคนจึงเชื่อว่าน้ำมันปาล์มอาจช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคบางชนิดได้ โดยมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่าน้ำมันปาล์มอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้

  • ป้องกันภาวะขาดวิตามินเอ
    วิตามินเอ เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูก ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและสายตา ซึ่งหากขาดวิตามินเออาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการมองเห็น มีอาการตาแห้ง และอาจนำไปสู่การเกิดภาวะโลหิตจางได้อีกด้วย และเนื่องจากในน้ำมันปาล์มแดงมีสารแคโรทีนอยด์ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอได้ จึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำมันปาล์มในด้านการป้องกันภาวะขาดวิตามินเออยู่บ้าง
    มีงานวิจัยหนึ่งที่พบว่าผู้ป่วยโรคซิสติก ไฟโบรซิสมีระดับวิตามินเอในเลือดสูงขึ้นหลังจากรับประทานน้ำมันปาล์มแดงเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ แต่เนื่องจากงานวิจัยนี้เป็นการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโรคซิสติก ไฟโบรซิสเท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันภาวะขาดวิตามินเอในคนทั่วไป
    นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับการรับประทานน้ำมันปาล์มแดงในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร พบว่าการรับประทานน้ำมันปาล์มแดงช่วยเพิ่มระดับสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ จึงเชื่อว่าการบริโภคน้ำมันปาล์มอาจป้องกันภาวะขาดวิตามินเอได้ ทั้งยังพบว่าสารแคโรทีนอยด์ยังสามารถส่งผ่านไปยังลูกทางน้ำนมได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของน้ำมันปาล์มในการป้องกันภาวะขาดวิตามินเอที่แน่นอนอีกครั้ง
  • ลดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี
    คอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (Low-Density Lipoproteins: LDL) เป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกาย หากมีคอเลสเตอรอลชนิดนี้มากเกินไปอาจนำไปสู่การเกิดโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ เป็นต้น
    มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบว่ากลุ่มคนที่บริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำมันปาล์มมีระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมและระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีลดลง จึงเชื่อว่าน้ำมันปาล์มอาจช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของน้ำมันปาล์มในด้านการช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • ช่วยบำรุงสมอง
    เนื่องจากน้ำมันปาล์มเป็นแหล่งของวิตามินอี ซึ่งมีสารโทโคไตรอีนอลที่เชื่อกันว่าอาจช่วยลดการแตกตัวของไขมันไม่อิ่มตัวในสมอง ชะลอการเกิดภาวะสมองเสื่อม ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง และยังช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแผลในสมองอีกด้วย จึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของน้ำมันปาล์มในด้านนี้อยู่บ้าง
    มีงานวิจัยหนึ่งที่ทำการทดลองในหลอดทดลองและในสัตว์เกี่ยวกับสารโทโคไตรอีนอลในวิตามินอีจากน้ำมันปาล์ม โดยพบว่าสารโทโคไตรอีนอลอาจช่วยพัฒนาสมรรถนะของการรู้คิด ทั้งอาจช่วยชะลอภาวะการเกิดสมองเสื่อมและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังมีงานวิจัยอีกชิ้นที่ทำการทดลองในผู้ที่มีรอยโรคในสมอง พบว่ารอยโรคในสมองของผู้ที่บริโภคสารโทโคไตรนอลจากน้ำมันปาล์มไม่มีการเจริญเติบโตขึ้น จึงเชื่อว่าน้ำมันปาล์มอาจช่วยชะลอการเจริญเติบโตของรอยโรคในสมองได้อีกด้วย
    อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของน้ำมันปาล์มในด้านการบำรุงสมองและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสมองที่แน่นอน

นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มยังอาจใช้ในการป้องกันโรคอื่น ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคมาลาเรีย ภาวะความดันโลหิตสูง และภาวะเป็นพิษจากไซยาไนด์ เป็นต้น ทั้งอาจช่วยเรื่องการเผาผลาญของร่างกายและช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพดังกล่าวของน้ำมันปาล์มอีกครั้ง

บริโภคน้ำมันปาล์มอย่างไรให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

การบริโภคน้ำมันปาล์มเพื่อใช้รักษาโรคอาจมีความปลอดภัยทั้งในผู้ใหญ่ เด็ก และสตรีมีครรภ์เมื่อบริโภคเป็นระยะเวลานาน 6 เดือน สำหรับการบริโภคน้ำมันปาล์มเพื่อป้องกันภาวะขาดวิตามินเอ ผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไปควรบริโภคน้ำมันปาล์มปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะหรือ 9 กรัมต่อวัน ส่วนผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ควรบริโภคน้ำมันปาล์มปริมาณ 4 ช้อนโต๊ะหรือ 12 กรัมต่อวัน

ผู้ที่กำลังรับประทานยาที่ชะลอการแข็งตัวของเลือดอย่างยาต้านการแข็งตัวของเลือดและยาต้านเกล็ดเลือดควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำมันปาล์ม เนื่องจากน้ำมันปาล์มอาจมีผลทำให้เลือดแข็งตัวได้ นอกจากนี้ การใช้น้ำมันปาล์มซ้ำอาจลดประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และอาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์และเพิ่มความระมัดระวังในการบริโภคน้ำมันปาล์มมากเป็นพิเศษ และหากพบว่ามีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหลังจากบริโภคน้ำมันปาล์มควรรีบไปพบแพทย์ทันที