มีไข้ต่ำๆ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว เพลีย ขมคอ เป็นมาอาทิตย์กว่า น้ำมูกไหลตลอด แสบจมูก มียารักษาไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Nuchsara Wongpromma,

                    หากมีปรอทหรือเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดไข้ แนะนำให้ใช้วัดดูว่ามีไข้จริงหรือไม่ โดยการอมปรอทไว้ใต้ลิ้นประมาณ 2-3 นาที หากวัดได้เกิน 37 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้ และหากมีไข้จริง ร่วมกับมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย มีน้ำมูกมาก ก็อาจเป็นไข้หวัดได้ ซึ่งมักหายได้เองใน 1 สัปดาห์ แต่หากอาการเป็นติดต่อกันนานมากกว่า 1 สัปดาห์แล้ว แสดงว่าอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น คือเป็นไซนัสอักเสบ ซึ่งอาการหลักคือจะมีน้ำมูกมาก สีเขียวหรือสีเหลืองข้น และมีอาการคัดจมูก แสบจมูก นอกจากนี้จะมีอาการปวดบริเวณไซนัส ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก จมูกตรงระหว่างคิ้ว หัวตา ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น จมูกรับกลิ่นได้ไม่ค่อยดี มีกลิ่นปาก มีไข้ อ่อนเพลีย เป็นต้น

                  การดูแลตนเองในเบื้องต้น ได้แก่ การดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ไม่สูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการโดนฝุ่นควันต่างๆ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และทานยาบรรเทาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ แก้ปวด ได้แก่ พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน เป็นต้น สำหรับน้ำมูก อาจใช้ยาที่ช่วยลดการหลั่งน้ำมูกและลดอาการคัดจมูก เช่น pseudoephedrine, phenylephrine และอาจใช้การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ โดยอาจใช้เป็นที่พ่นจมูกแบบสำเร็จรูป โดยใส่เข้าไปในรูจมูกข้างหนึ่งและบีบน้ำออกอย่างช้า ๆ น้ำเกลือก็จะชะล้างน้ำมูกที่ตกค้างภายในโพรงจมูกให้ไหลออกมาทางจมูกอีกข้างหนึ่ง 

                    แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อพิจารณารับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมค่ะ รวมถึงตรวจหาสาเหตุอื่นๆ ด้วย