มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง เป่าดูแล้วไม่รั่ว จะซื้อยาคุมมากินได้ไหม ปกติประจำเดือน 2-3 เดือนมาครั้ง

สวัสดีค่ะ คุณ Pannathorn Phungkusol,

                       การมีเพศสัมพันธ์ โดยการใช้ถุงยางอนามัย หากใช้ได้อย่างถูกต้อง จะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 2% แต่จากการใช้งานจริงโดยทั่วไป พบโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 18%

                       สำหรับการตรวจสอบว่าถุงยางมีการรั่วซึมหรือฉีกขาดหรือไม่ แนะนำควรใช้วิธีการใส่น้ำลงไปในถุงยาง และลองบีบดูว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ หากไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด และใช้ถุงยางได้อย่างถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินหลังจากที่มีเพสสัมพันธ์

                     แต่หากถุงยางมีการรั่วซึมหรือฉีกขาด ก็อาจพิจารณาทานยาคุมฉุกเฉิน โดยควรรีบทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

                      สำหรับยาคุมกำเนิดชนิด 21 หรือ 28 เม็ด การทานหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ จะไม่ได้ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และการจะเริ่มทานยาเป็นแผงแรก แนะนำให้ทานเมื่อประจำเดือนมาแล้ว โดยควรเริ่มทานภายในไม่เกิน 5 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา ยาคุมจึงจะสามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที

                       ส่วนการที่นาน 2-3 ประจำเดือนจะมาสักครั้ง ส่วนใหญ่แล้วในช่วงอายุน้อย จะเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ทำงานผิดปกติ นอกจากนี้ อาจเกิดจากมีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติได้ ดังนั้น หากยังไม่เคยตรวจหาสาเหตุ แนะนำควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุก่อนที่จะเริ่มทานยาคุมกำเนิดค่ะ

                      ส่วนการตรวจหาการตั้งครรภ์ ควรตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ