ถามแพทย์

  • มีอาการปวดท้องตรงสะดือ ปวดแบบบิด มีอาการถ่ายเหลว กินข้าวแล้วเรอบ่อย เป็นอาการของโรคอะไร

  •  Kanyarat Siriputthawanich
    สมาชิก
    มีอาการปวดท้องตรงสะดือปวดแบบบิดๆปวดร้าวไปทั้งด้านซ้ายขวาเลยค่ะเวลาเช้าๆพอถ่ายจะรู้สึกเบาลง เป็นทุกเช้ามาอาทิตย์นึงแล้วค่ะ แล้วเมื่อคืนมีอาการปวดเหมือนเดิมค่ะและถ่ายก็รู้สึกดีขึ้น วันนี้ยังมีอาการถ่ายเหลวสามครั้งด้วยค่ะ บางวันมีอาการกินข้าวแล้วเรอบ่อย และมีเสียงโครกครากที่ท้องด้วนค่ะ จะเป็นอาการของโรคอะไรได้บ้างคะ
    Kanyarat Siriputthawanich  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Kanyarat Siriputthawanich

    อาการปวดท้องบริเวณสะดือ ปวดบิดๆนั้น อาจจะมีสาเหตุมาจากปวดจากลำไส้อักเสบ มักมีอาการท้องเสีย กินได้น้อย คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย หรือเป็นปวดกล้ามเนื้อ อาจจะปวดมากตอนที่กดหรือขยับตัวเร็วๆ หรือปวดจากภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่มักมีปัสสาวะแสบขัดหรือปัสสาวะมีเลือดปนร่วมด้วย

    โดยหากสัมพันธ์กับการขับถ่าย เรอบ่อย ถ่ายเหลวนั้น อาจจะเกี่ยวกับเรื่องลำไส้อักเสบหรืออาหารเป็นพิษ ที่เกิดจากการกินอาหารที่ไม่สุกสะอาด

    เบื้องต้นดื่มน้ำผสมเกลือแร่ รับประทานยาแก้ปวดท้อง กินอาหารสุกสะอาด ล้างมือก่อนกินอาหาร

    หากปวดมากขึ้นเรื่อยๆกินยาไม่ทุเลา ปวดจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ มีอาการอื่นๆร่วมด้วยเช่นปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะเป็นเลือด เบื่ออาหาร ท้องเสียมากจนดื่มน้ำตามเข้าไปไม่ทัน ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ