อายุ 74 ปี มีเลือดออกในสมองเนื่องจากการกินยาวาร์ฟาริน ไม่ได้ผ่าตัด ไม่ยอมกลืนอาหาร ต้องใส่สายยาง เป็นเพราะอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ aklaysab@gmail.com,

                 การทานยาวาร์ฟาริน ซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เกิดมีผลข้างเคียงคือมีเลือดออกในอวัยวะต่างๆ ได้

                  ซึ่งหากได้เกิดเลือดออกในสมอง โดยหากปริมาณเลือดออกมีไม่มาก และไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ ก็อาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัดรักษา เพียงแค่หยุดทานยา และใช้ยาที่จะไปต้านผลของยาวาร์ฟาริน เช่น วิตามินเค หรือการให้พลาสม่า นอกจากนี้ ก็ต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของอาการ คอยตรวจความดันในกะโหลกศีรษะ การทำ CT Scan สมองซ้ำ 

                   สำหรับอาการเลือดออกในสมองนั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีเลือดออก ความรุนแรงและจำนวนเนื้อเยื่อที่ได้รับผลกระทบ อาการได้แก่  ปวดหัวรุนแรงขึ้นมาเฉียบพลัน มีอาการชัก คลื่นไส้หรืออาเจียนอย่างรุนแรง แขนหรือขาอ่อนแรงเฉียบพลัน สูญเสียการทรงตัวและการประสานงานกันของระบบต่าง ๆ ในร่างกายตาพร่ามัว การตอบสนองของรูม่านตาไม่เท่ากัน พูดสื่อสารไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูด มีปัญหาในการเขียนหรืออ่านหนังสือ กลืนลำบาก ลิ้นรับรสชาติผิดแปลกไปจากปกติ เวียนศีรษะ ความดันโลหิตสูงขึ้น อาการปวดคล้ายเข็มทิ่มหรือชา การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็กมีปัญหา เช่น มีอาการมือสั่น หมดสติ ไม่รู้สึกตัว สับสน เพ้อ ไม่ตอบสนอง มีการตื่นตัวน้อยลง เซื่องซึม เป็นต้น

                   ทั้งนี้ หากคุณพ่อ ไม่ยอมกลืนอาหาร ก็อาจเป็นไปได้ว่าเกิดเลือดออกในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการกลืนอาหาร  ซึ่งหากไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่นๆ อีก ก็แสดงว่าปริมาณเลือดที่ออกน่าจะเป็นแค่จุดเล็กๆ ค่ะ 

                   หลังจากนี้ เมื่อหยุดทานยาวาร์ฟาริน และได้รับการรักษาจนค่าการแข็งตัวของเลือดกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่มีเลือดออกเพิ่มเติม อาการกลืนลำบาก กลืนไม่ได้ ก็น่าจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เองค่ะ คล้ายกับผู้ป่วยที่เกิดแขนหรือขาอ่อนแรง ที่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง เพียงแต่อาจต้องอาศัยเวลา โดยอาจนานเป็นเดือนก็ได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้หายไวไวนะคะ