ถามแพทย์

  • หลังแท้งได้เริ่มทานยาคุมกำเนิด ทานได้ 10 เม็ด เลือดออกจากช่องคลอดเป็นสีน้ำตาล ใช่ประจำเดือนหรือไม่

  •  jessy
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน พอตรวจก็ขึ้น 2 ขีด หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ที่ตรวจตั้งใจว่าจะไปหาหมอให้แน่ใจอีกครั้ง ผลปรากฏว่าเกิดอาการเลือดออก ปวดท้องมากๆจนเกือบทนไม่ได้ 2 ชั่วโมง แล้วก็หายปวด มีเลือดออก ตอนแรกคิดว่าประจำเดือน ผ่านไป 2 อาทิตย์เลือดยังไม่หยุดบวกกับมีอาการคันที่อวัยวะเพศ ฉันจึงไปหาหมอ หมอบอกแท้งแต่ออกไม่หมด หมอให้ยาทานแล้วกลับบ้านนัดพบอีก 1 อาทิตย์ มีข้อแม้ว่าเลือดต้องหยุดไหล ถ้าไม่คือต้องขูดมดลูก 5 วันหลังจากทานยาเลือดก็หยุดไหลค่ะ พอถึงเวลานัดก็ไปค่ะ หมออุลตร้าซาวด์อีกครั้ง ผลปรากฏว่าแท้งครบ ฉันปรึกษาเรื่องคุมกำเนิด หมอเลยให้ทานยาคุมยี่ห้อ yaz เริ่มทานวันนั้นเลย ฉันมีอะไรกับแฟน หลังจากทานยาไปได้ 8 วัน โดยสวมถุงยางร่วมด้วย แต่พอทานไปได้ประมาณ 10 เม็ด กลับมีเลือดออกเป็นเลือดสีน้ำตาลทั้งวันแต่ไม่เต็มแผ่นผ้าอนามัย 1 แผ่น พอฉันคิดแล้ว จากวันที่แท้งจนวันที่เลือดออกนี้ ก็ 1 เดือนพอดี อยากทราบว่าเลือดที่ออกคือ ประจำเดือนใช่ไหม? แล้วต้องหยุดยาคุมแล้วทานแผงใหม่เพื่อให้ตรงกับวันที่มีประจำเดือนไหม หรือทานต่อไปเรื่อยๆ? ถ้าทานต่อจะมีผลกับวันที่มีประจำเดือนในเดือนถัดไปไหม หรือไม่ต้องสนใจทานไปเรื่อยๆคะ?
    jessy  Natthaphat
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ

    การทานยาเม็ดคุมกำเนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังการใช้ยาเช่นมีเลือดไหลก่อนรอบประจำเดือน ปวดหัว คลื่นไส้วิงเวียน ปวดหน้าอก อารมณ์แปรปรวน ความดันโลหิตสูง เกิดลิ่มเลือดอุดตัน มะเร็งเต้านม เป็นต้น

    เหล่านี้เป็นผลข้างเคียงจากการทานยาค่ะ ซึ่งอาการที่กล่าวมามักเป็นอยู่ในระยะสั้นๆ และจะหายไปเองค่ะ

    หากอาการเป็นอยู่นานติดต่อกัน ขอแนะนำให้เข้ารับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดปกติอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเร่งด่วนค่ะ