ถามแพทย์

  • เลิกทานยาคุมแล้วสิวขึ้น เกิดจากอะไร แล้วควรทำอย่างไร

  •  rungnok2124
    สมาชิก
    รบกวนสอบถามค่ะ ทานยาคุมมาประมาณสองปี แต่พอเลิกทานได้ประมาณ 2 เดือนแล้วสิวขึ้น ลักษณะสิวเป็นสิวอักเสบ ตุ่มแดงๆ นูนๆ บางเม็ดก็มีหัวสิว บางเม็ดก็ไม่มีหัวสิว แต่ตอนนี้ขึ้นเยอะมากค่ะ และเป็นลักษณะปื้นๆ ใบหน้าเหมือนบวมขึ้นเล็กน้อยด้วยค่ะ เป็นเพราะสาเหตุอะไรคะ
    rungnok2124  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ rungnok2124

    สิว เป็นการอักเสบของผิวหนังที่มีการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน เกิดเป็นจุดเล็ก ๆ ที่อักเสบ บวมแดง หรือมีหนอง ส่วนมากจะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก ไหล่ หรือหลัง สาเหตุอาจเกิดจากเรื่องฮอร์โมนเพศชายที่มากเกินไป หรือเกิดจากการกินอาหาร หรือการมีสุขลักษณะที่ไม่ดี เป็นต้น

    โดยอาจสัมพันธ์กับการหยุดยาคุมได้ เพราะยาคุมบางชนิดก็มีฤทธิ์ในการรักษาสิวแต่อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องกลับไปกินยาคุมใหม่ แต่สามารถรักษาสิวด้วยวิธีอื่นๆเช่น ใช้ยาฆ่าเชื้อรับประทานหรือยาทาฆ่าเชื้อเฉพาะที่เช่น ยาคลินดามัยซิน (Clindamycin) ร่วมกับเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ และอีริโทรมัยซิน (Erythromycin) ร่วมกับเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ หรือถ้าเป็นกลับมาบ่อยๆอาจจะต้องทายากลุ่มเรตินอยด์ไว้เพื่อป้องกันการเกิดของสิวค่ะ แนะนำพบแพทย์เพื่อประเมินความรุนแรงและเลือกชนิดการรักษาที่เหมาะสมอีกครั้ง

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น รักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นสิว โดยใช้น้ำเปล่าหรือน้ำสบู่อ่อนๆล้างวันละ 2 ครั้ง ไม่ควรล้างบ่อยเกินวันละ 2 ครั้งเช่นกันค่ะ และไม่ไปแคะแกะเกาสิวเด็ดขาดเพราะจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อและทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามมาได้