ทานยาคุมไม่ต่อเนื่อง หยุดกินบ้าง เลือดออกสีน้ำตาล จะท้องไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Pop_popta

การใช้ยาคุมกำเนิด (Oral contraceptive pills) จัดว่าเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงค่ะ มีทั้งแบบแผง 21 หรือ 28 เม็ด คาดว่าน่าจะใช้เเบบ 21 เม็ด ซึ่งจะต้องมีการเว้น 7 วัน ก่อนการเริ่มแผงใหม่ค่ะ 

ดังนั้น โดยทั่วไป การใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด มักจะคาดเดาคร่าวๆว่าประจำเดือนน่าจะมาในช่วงที่ไม่ได้รับประทานยา 7 วันนี้ค่ะ ซึ่งถ้าไม่ได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ถือว่ามีโอกาสช่วงที่ไม่มียาในร่างกาย  อาจลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลงได้ค่ะ ดังนั้นจึงอาจเกิดการตกไข่ขึ้นมาได้

แสดงว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ 

ดังนั้น การที่หยุดทานยาอย่างต่อเนื่อง แล้วมีเพศสัมพันธ์ มีโอกาสค่ะ ที่อาจจะเกิดการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น เลือดที่ออกต้องระวังด้วยค่ะว่าอาจเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อน หรือการตั้งครรภ์อ่อนๆเกิดขึ้นได้ 

หรือ ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็เป็นไปได้ว่า ร่างกายกำลังปรับตัวของระบบฮอร์โมน หลังจากการหยุดยา ดังนั้น จึงอาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยออกมาได้ 

คิดว่าเลือดที่ออกในวันที่ 24 ตค น่าจะสัมพันธ์กับการทานยาคุมค่ะ เเต่ว่าเลือดที่ออกหลังจากนั้นคือ 10-12 พย มีโอกาสเป็นได้ทั้งเลือดออกผิดปกติ และเลือดประจำเดือนหลังจากที่เริ่มหยุดยาค่ะ ถ้าเป็นประจำเดือน มักจะต้องมาตรงตามรอบที่ควรจะเป็น ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะเป็นสิ้นเดือน ส่วน ลักษณะเลือด ปริมาณ สี อาการปวดท้อง น่าจะเหมือนเดิมค่ะ ดังนั้น การที่เป็นสีน้ำตาล้อคโกเเลต คาดว่าน่าจะลักษณะไม่ค่อยเหมือนประจำเดือนค่ะ 

ส่วนเลือดออกผิดปกตินอกเหนือจากความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ อาจเกิดจากติ่งเนื้อหรือก้อนที่ปากมดลูก การรติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ช่องคลอด หรือเยื่อบูโพรงมดลูกได้ ซึ่งเเนะนำให้ไปตรวจภายในกับสูตินรีเเพทย์เพื่อประเมินอย่างละเอียดค่ะ

ดังนั้น อาจต้องสังเกตค่ะ หลังจากนี้ควรมีรอบเดือนที่ปกติมา เเต่ถ้าไม่มาหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ 4-6 สัปดาห์ อาจต้องตรวจปัสสาวะเพื่อดูการตั้งครรภ์ร่วมด้วยค่ะ