มีฝีที่แก้มก้นใกล้ทวารหนัก เป็นมา 2 ปี ไม่หาย เป็นโรคอะไรค่ะ จะรักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ pheurtthinun,

                  ฝีที่บริเวณแก้มก้นใกล้ๆ กับรูทวารดังกล่าว อาจเป็น

               1. ฝีธรรมดา เกิดจากผิวหนังและเนื่อเยื่อใต้ผิวหนังบริเวณแก้มก้นเกิดการอักเสบติดเชื้อ จนทำให้เกิดอากรบวมเป็นก้อนนูนแดง ร้อน ปวด และมีหนองอยู่ภายใน หากมีรูเปิดออก ก็จะเห็นหนองไหลออกมา บางรายอาจมีไข้ ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ส่วนน้อยเกิดจากเชื้อรา

                  แต่ฝีธรรมดา หากได้ทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ และหนองไหลออกมาหมดแล้ว มักหายภายในไม่กี่สัปดาห์ ไม่กลายเป็นฝีที่มีหนองไหลเรื้อรังหรือเป็นๆ หายๆ ยกเว้นกรณีมีสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่บริเวณที่เกิดฝีดังกล่าว เช่น เคยมีไม้ทิ่ใตำและฝังอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง 

               2. ฝีคัณฑสูตร เป็นฝีที่เกิดข้างในทวารหนัก แต่เกิดเส้นทางภายในที่หนองกัดเซาะจนเป็นโพรงและกลายมาเป็นฝีที่บริเวณแก้มก้นให้เห็นขึ้นมา อาการคือจะปวดข้างในทวารหนัก โดยเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ  และจะมีอาการบวมและปวดตรงบริเวณรอบๆ รูทวารหนัก มีน้ำเหลืองหรือหนองซึมออกจากรูที่ผิวหนัง (ที่เห็นเป็นฝี) บริเวณใกล้กับทวารหนัก ซึ่งบางครั้งอาจมีเลือดปนออกมาได้ อาการดังกล่าวมักเป็นแบบเรื้อรัง

                หากเป็นฝีชนิดนี้ การรักษาคือต้องรักษาอาการที่เป็นฝีหนองให้หายก่อน ด้วยการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อและการผ่าระบายหนองออก หลังจากนั้นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อปิดเส้นทางที่เป็นโพรงต่างๆ 

               3. มะเร็งทวารหนัก  อาการคือ มีก้อนเนื้อ หรือแผลเรื้อรังบริเวณทวารหนัก มีมูกหรือหนองไหลจากทวารหนัก ปวดและเจ็บรอบทวารหนัก หรือในทวารหนัก ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น แต่หากเป็นมา 2 ปีแล้ว อาการย่อมจะรุนแรงขึ้น ก้อนหรือแผลขยายใหญ่ขึ้น ปวดก้อนหรือแผลรุนแรง และอาจมีอาการที่มะเร็งกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ไออ เหนื่อยหอบ ปวดตามกระดูก เป็นต้น ดังนั้นหากอาการคงที่มา 2 ปี จึงไม่น่าใช่มะเร็งค่ะ

               ดังนั้นแนะนำให้คุณ pheurtthinun ไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเป็นฝีคัณฑสูตรหรือไม่ค่ะ ซึ่งการรักษาต้องอาศัยการผ่าตัดตามที่กล่าวไปค่ะ