-
เป็นประจำเดือนเกือบเดือนหนึ่ง เกิดจากอะไรได้บ้าง
-
Jun 25, 2019 at 09:02 PM
สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ24ปีค่ะ เป็นประจำเดือนตั้งแตวันที่23พ.ค.จันถึงวันที่14มิ.ย เลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐ แล้วหมอก็ให้ยาปรับฮอร์โมนมากินประมาณ2แผงแผงละ10เม็ดกินทั้งหมด20เม็ด แล้วประจำเดือนก็หยุดหลังจากที่กินยาเริ่มหยุดตั้งแต่กินเม็ดที่2-3แล้วหมอก็นัดดูอาการประมานอาทิตย์หนึ่งหลังจากกินยา ยาก็หมดก่อนวันหมอนัด1วัน แล้วหมอก็บอกว่าาอยากทราบแน่ชัดว่าเป็นอะไรก็ให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางหมอจึงแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ และหมอก็ให้ยาบำรุงเลือดมากิน และหลังจากที่หยุดกินยาฮอร์โมน4วันก็เป็นประจำเดือนอีกค่ะประจำเดือนมาเยอะมากแล้วก็ปวดท้องมากด้วยค่ะอยากทราบว่าเป็นแบบนี้อันตรายไหมคะJun 26, 2019 at 03:37 PM
สวัสดีค่ะคุณ August Marin
ประจำเดือนมามากอาจเกิดจาก
-เนื้องอกมดลูก
-เนื้องอกที่ปากมดลูก
-มีการติดเชื้อที่ช่องคลอดหรือปากมดลูกหรือมดลูก
-ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ภาวะนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้รอบเดือนมาไม่ปกติและประจำเดือนมามากเมื่อกลับมามีรอบเดือนตามปกติ
-อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ ผู้ป่วยโรคนี้เกิดการติดเชื้อที่ระบบสืบพันธุ์ส่วนบน ได้แก่ มดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ มักเกิดอาการปวดท้อง ตกขาวผิดปกติ มีไข้
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในเนื้อมดลูกหรือนอกมดลูก ภาวะนี้เกิดจากต่อมของเยื่อบุมดลูกเข้าไปฝังตัวที่กล้ามเนื้อมดลูกหรือที่ส่วนอื่นๆนอกมดลูก ส่งผลให้ผู้ป่วยมีเลือดประจำเดือนมากรวมทั้งปวดท้องประจำเดือน
-โรคทางกายอื่นๆเช่น โรคไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือโรคที่เกี่ยวกับตับและไต
แนะนำไปพบสูตินรีแพทย์เลยค่ะ เพราะการเลือดออกทางช่องคลอดมากนั้นเป็นภาวะผิดปกติ ต้องหาสาเหตุและแก้ไขค่ะ แพทย์อาจตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะ ตรวจการตั้งครรภ์ ร่วมกับทำอัลตราซาวน์หน้าท้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป การรับประทานฮอร์โมนอาจจะช่วยหยุดเลือดได้ชั่วคราว แต่ถ้าไม่ได้แก้ไขสาเหตุ พอหยุดยาก็จะกลับมาเป็นอีกค่ะ
การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมารับประทานเอง ถ้ามีอาการซีดอ่อนเพลียจากเสียเลือดมาก ไข้สูง ตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
-
ถามแพทย์
-
เป็นประจำเดือนเกือบเดือนหนึ่ง เกิดจากอะไรได้บ้าง