หลังประจำเดือนหมดไป 1 สัปดาห์ มีเลือดออกนาน 2 สีปดาห์ ปริมาณไม่มาก เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Pam Araya,

                 หากประจำเดือนหมดไป 1 สัปดาห์แล้ว ได้มีเลือดออกมาอีก โดยออกนาน 2 สัปดาห์ ถือเป็นอาการเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ โดยอาจเกิดจาก

                1. ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น แท้งคุกคาม แท้งไม่ครบ เป็นต้น แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                2. มดลูกอักเสบ แต่มักมีตกขาวที่ผิดปกติและอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                3. การทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะที่มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) แต่มักมีอาการขาดประจำเดือนหลายเดือน แล้วตามด้วยการมีเลือดออกเป็นเวลานาน

                 4. ความผิดปกติที่มดลูก เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่มักพบในหญิงวัยกลางคนขึ้นไป

                 5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                 6. การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น

                 หากที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์ อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อน หากตรวจไม่พบ แต่ยังคงมีเลือดออก แม้จะมีปริมาณน้อย ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ