ถามแพทย์

  • มีอาการปวดตั้งแต่ฝ่าเท้าถึงต้นขา ต่อมามีตุ่มเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน เป็นอาการอะไร ควรทำอย่างไร

  •  Pear Thitiya
    สมาชิก
    อาการเริ่มแรกปวดตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นมาถึงต้นขา ไปหาหมอมาแล้วให้ยาฆ่าเชื้อทางน้ำเกลือแต่ไม่หายค่ะ ผ่านมาได้สักพักมีตุ่มใสขึ้นบริเวณหน้าเท้าและหลังเท้า ตุ่มใสแต่มีอาการปวดค่ะ อยากทราบว่าเป็นอะไรคะ แล้วมีวิธีบรรเทาอาการปวดไหม (โรคประจำตัวคือเบาหวานค่ะ)
    Pear Thitiya  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Pear Thitiya

    ตุ่มใสที่บริเวณเท้า อาจเกิดจาก

    -ผื่นผิวหนังอักเสบเฉียบพลัน

    -ผื่นผิวหนังอักเสบจากการแพ้สารสัมผัส เช่น สารกันเสียในโลชั่น สบู่ที่ใช้

    -โรคอีสุกอีใส จะเป็นตุ่มน้ำขึ้นทั่วตัว มีไข้ต่ำๆ

    -ตุ่มถูกแมลงกัด จะนูน แดง คัน

    -โรคงูสวัด มักเป็นแค่บริเวณใดบริเวณหนึ่งเพียงข้างเดียว เป็นตุ่มน้ำใส ปวดแสบปวดร้อน

    -การติดเชื้อบริเวณชั้นใต้ผิวหนัง อาจมีปวด บวม แดง ร้อน มีไข้ร่วมด้วย

    การบรรเทาปวดนั้นสามารถรับประทานยาแก้ปวด ลดการลงน้ำหนัก ยกขาสูง ประคบเย็นได้ 

    ถ้าตุ่มลุกลามเป็นมาก มีอาการปวดแสบ ปวดร้อน แดง คันมาก ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอนก่อน การรักษาขึ้นกับโรคที่เป็นค่ะ โดยหากเป็นเบาหวาน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แผลหายช้าและติดเชื้อได้ง่าย ควรไปพบแพทย์ 

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ไม่ไปแกะเกาตุ่มที่เป็น ใช้น้ำเปล่าสะอาดล้างภายนอกได้