ถามแพทย์

  • อายุ 22 ปี มีอาการเจ็บช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ มีหูดข้างในช่องคลอด หลังทายาไม่ดีขึ้น เป็นอาการอะไร

  •  capper
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะหมอ คือหนูเจ็บช่องคลอด แค่ข้างนอก ละก็คัน ไม่เจ็บมากนะคะ. หลังจากนั้นหนูไป คลีนิคมา หนูบอกหมอว่าหนูพึ่งมี เช็กส์ครั้งแรกเดือนก่อน และ ก็มีเกือบทุกวันกะแฟน แล้วมันก็มาเจ็นเมื่อวันที่ 27 ที่ผ่านมา แล้วก็คัน แต่ไม่ถึงกับแย่มาก ก็งดมีเช็กส์ไป แต่เวลาล้างมันเจ็บค่ะ เหมือนมีดบาด แล้วแฟนบอกไปหาหมอ พอไปคลีนิคหมอ ก็ตรวจสอบ ( อ้อ หนูมีหูดที่คล้ายกะโรคหงอนไก่ใกล้ๆกับจิมิ แต่หนูมีมาตั้งแต่เกีดค่ะ ) แล้วหมอก็อุปทานว่า ตายแล้วหนู หนูเป็นหงอนไก่ หนุบอกว่านั่นหนูมีมาแต่เกีดค่ะ แต่หมอไม่เชื่อหนู แล้วเค้าก็ยัดที่เป็นแท่งเหล็กหนูภายในของหนูละก็บอกว่า ปากมดลูกหนูจี้เหร่มา มีหงอนไก่ด้วย มันติดมาจากข้างนอก , หนูก็บอกว่าข้างนอกไม่ใช่หงอนไก่ ไปหาหมอตอนเด็กแล้ว. , แล้วหนูก็บอกว่าเคยมีเช็กส์แค่แฟนคนเดียวเมื่อเดือนก่อนถึงปัจจุบัน แต่เค้าบอกไม่เชื่อ หนูปากมดลูกเธอสิ ขี้เหร่ขนาดนี้ ต้องมีมาก่อนแน่ๆ แล้วเค้าก็เอายาทาในข้างในท้องหนู และ ข้างน้อง ยาทาหงอนไก่ เข้าบอกว่าถ้าหงอนไก่มันจะแสบ แต่หนูไม่แสบเลยสักอัน ... ทีนี้กลับบ้านมาค่ะ. เจ็บ และ คันมากก่วาเดีม พอวันนี้ตื่นเช้ามา ล้างจิมิแทบไม่ได้ค่ะ เหมือนมีดบาดไปทั่วเลย เมื่อวานก่อนไปหาหมอก็ล้างได้ แค่เจ็บแถวๆช่องคลอด แต่วันนี้อาการหนักก่วาที่ผ่านมาอีกค่ะ. เค้าแค่วางยาให้หนู ไม่เอายาอะไรมาทา แต่คิดเงีนตั้ง 5000 ก่วาบาทอ่ะค่ะ หนูนี่โง่จัง , มันเสยเงีน แต่มันไม่ดีขื้น แถมยังหนักก่วาเก่า. หนูอยากรู้ว่าหนูเป็นอะไรคะ ? หงอนไก่มันเป็นข้างในปากมดลูกในท้องได้หรอคะ ? แฟนหนูไม่มีโรคอะไรค่ะ .. แล้วหนูก็ไม่เคยมีอะไรมาก่อนนอกจากแฟนค่ะ . คอนเฟิร์ม10000% ข้างนอกหนูไม่ใช่หงอนไก่ . หนุอายุ 22 ค่ะ
    capper  capper
    สมาชิก
    ไม่ใช่ จี้เร่ = ขี้เหร่มาก

    สวัสดีค่ะ คุณ capper

    การติดเชื้อ HPV ที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่นั้น สามารถเห็นรอยโรคได้ตั้งแต่ 2สัปดาห์ - 8เดือน หลังจากที่ได้รับเชื้อค่ะ (เชื้อนี้ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก)

    รอยโรคที่เป็นรอยโรคหูดหงอนไก่ จะมีลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงค่ะ ในกรณีอื่นๆที่อาจมีลักษณะของรอยโรคที่คล้ายโรคหูดหงอนไก่ได้ ได้แก่ เนื้องอกของกล้ามเนื้อของมดลูกเองบางชนิด ซึ่งเนื้องอกชนิดที่คล้ายโรคหูดหงอนไก่นั้น เป็นเนื้องอกที่พบได้น้อยค่ะ

    แต่หากคุณ capper ไม่มั่นใจในคำวินิจฉัยของแพทย์ที่ให้แก่รักษาในครั้งนั้น สามารถไปตรวจหาเชื้อ HPV เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อนั้นๆหรือไม่นะคะ โดยไปพบสูตินารีแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจโดยละเอียดและรับการรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ