เจ็บข้างในคอ ข้างซ้าย เวลากลืนน้ำลายก็เจ็บ ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ moo2007,

                    อาการเจ็บคอ อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                 1.ไข้หวัด แต่นอกจากอาการเจ็บคอ ก็มักมีอาการไอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ มีเสมหะ มีน้ำมูก เป็นต้น

                 2. คออักเสบหรือคอหอยอักเสบ (pharyngitis) มักจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้ คอแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน มีจุดหรือแผ่นสีขาวหรือสีเทาบริเวณลำคอ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโต

                 3. ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) มักจะมีอาการเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารได้ลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีกลิ่นปาก ต่อมทอนซิลทั้งสองข้างจะบวมโต สีแดงจัด มีจุดหนองติดอยู่บนทอนซิล 

                 4. มีหนองบริเวณโพรงข้างคอหอย (Retropharyngeal Abscess) จากการติดเชื้อ อาการคือมีไข้ ลำคอส่วนบนบวม เจ็บลำคอ กลืนแล้วเจ็บ เป็นต้น

                  นอกจากนี้อาการเจ็บคอ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ เช่น 

                  - มีเศษอาหารหรือวัตถุไปติดที่ทอนซิล เช่น ก้างปลา กระดูกไก่ เปลือกกุ้ง เศษพลาสติก เป็นต้น

                  - อากาศแห้ง นอกจากนี้ การหายใจทางปากก็ทำให้คอแห้งและเกิดอาการเจ็บได้

                 - การได้รับสารก่อความระคายเคือง เช่น มลพิษทางอากาศ ควันบุหรี่ หรือสารเคมีต่างๆ

                 -  การดื่มแอลกอฮอล์ การกินอาหารเผ็ด หรือรสจัดไป

                 -  การใช้เสียงมากเกินไป การตะโกนหรือพูดคุยติดต่อเป็นเวลานาน

                 - โรคกรดไหลย้อน เมื่อกรดจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก และอาจย้อนขึ้นมาถึงลำคอทำให้เจ็บคอได้

                  - มีนิ่วในทอนซิล ทอนซิลจะบวมโต เห็นก้อนสีขาวที่ทอนซิล อาจทำให้มีกลิ่นปาก

                  - มีก้อนเนื้องอก หรือมะเร็งในลำคอ ลิ้น หรือกล่องเสียง แต่มักมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น เสียงแหบ มีก้อนที่ลำคอ กลืนลำบาก มีเลือดในน้ำลายหรือเสมหะ เป็นต้น

                   ในเบื้องต้น หากเพิ่งเป็นวันนี้ ให้พยายามดื่มน้ำเปล่ามากๆ งดน้ำเย็น ทานอาหารรสจืด งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ บ้วนปากล้างลำคอด้วยน้ำเกลือ งดการใช้เสียงดัง หรือพูดมากไป พักผ่อนเยอะๆ หากอาการไม่ดีขึ้น เจ็บคอมากขึ้น หรือมีไข้สูง แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรัตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ