ถามแพทย์

  • ตรวจเลือดหลังมีเพศสัมพันธ์ 12 วันแล้วไม่ท้อง หมอให้ยาแรับฮอร์โมนมากิน แล้วมีเลือดออกมา จะท้องไหม

  •  kaffffka
    สมาชิก

    มีเพศสัมพันธ์กันในวันที่27/07/62ค่ะ ใส่ถุงป้องกันแต่ไม่แน่ใจและเครียด ประจำเดือนที่ควรจะมา 3/08/62 ก็เลื่อไปค่ะ เลยตรวจฉี่แต่ก็คิดว่าเร็วเกินไป เลยไปตรวจเลือดในวันที่ 7/08/62 ซึ่งผ่านมาแล้ว 12วันหลังจามีเพศสัมพันธ์ ผลออกมาไม่ท้องค่ะ หมอบอกภาวะไข่ไม่ตก เลยให้ยาปรับฮอร์โมนมากิน กินไปได้1เม็ดก็มีประจำเดือนมา เป็นสีแดงจางๆเมือกๆ มีอาการปวดท้องแต่ไม่รุนแรงเหมือนปกติ ปริมาณคิดว่าน้อยกว่าปกติแต่ก็ต้องใส่ผ้าอนามัย เลยอยากรู้ว่านี่เป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือประจำเดือนจริงๆแน่ สับสนมากๆแต่ตรวจเลือดมาแล้วก็ไม่ได้ท้องค่ะ สามารถตรวจฉี่ได้เลยไหม หรือต้องรอหายก่อนคะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ kaffffka,

                        หากได้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 27 ก.ค. แล้วได้ตรวจเลือดหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 7 ส.ค. แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนมาช้า ก็เกิดจากสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ไข่ตกช้าค่ะ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายมากไ อดนอน นอนดึก เป็นต้น

                        หากในวันที่ 9 ส.ค. ได้มีเลืออกมาแล้ว ก็น่าจะเป็นเลือดประจำเดือนได้ แนะนำให้หยุดทานยาปรับฮอร์โมนไปก่อน เพราะหากทานต่อ ก็อาจมีปลทำให้เลือดหยุดไหลได้ค่ะ

                         ทั้งนี้ เลือดที่ออก ไม่ใช่เลือดล้างหน้าเด็ก เพราะเลือดล้างหน้าเด็กจะปรากฏหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปประมาณ 6-12 วัน อีกทั้งเมื่อตรวจเลือดแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็ย่อมไม่ใช่เลือดล้างหน้าเด็กค่ะ