ถามแพทย์

  • อายุ 21ปี อยู่ในช่วงการเรียนมหาลัย เรียนหนัก แล้วก็เครียดกับงาน นอนไม่หลับ ท้องเสีย ปวดหัวมากเสี่ยงซึมเศร้าไหม

  • ช่วงเรียนหนักๆ ต้องทำงานจนได้นอนวันละ1ชั่วโมงค่ะ ช่วงนั้นเครียด เหนื่อยมาก รู้สึกตัวเองทำงานออกมาได้ไม่ดี ทำงานออกมาได้ไม่ดีทำให้เพื่อนในทีมได้คะแนนน้อย กลัวเพื่อนจะไม่โอเครกับเราแต่เพื่อนก็ไม่ได้มีปัญหากับเราตรงเรื่องนี้ แต่ชอบคิดไปเองว่าเพื่อนจะไม่โอเคร ทำให้เพื่อนได้คะแนนน้อย เครียดว่าจนบางที่ไม่กล้ามองหน้าเพื่อนเพราะตัวเองทำให้เพื่อนผิดหวัง จากนั้นได้เริ่มมีอาการปวดหัวแรกๆไม่ปวดมากนอนพักก็หา แล้วกลับมาเป็นอีกรอบนี้เป็นหนักมากค่ะ ปวดหัวข้างขวามากเหมือนมีคนมาทุบ ปวดตรงกระบอกตาจนไม่อยากลืมตาต้องรับตาปวดจนมาถึงท้ายทอยค่ะ ปวดมากๆค่ะ แล้วก็มีอาการคลื่นไส้ อ้วก รวมไปถึงท้องเสียด้วยค่ะ เป็นแบบนี้อยู่4-5 ครั้ง แล้วก็หาไป ปัจจุบันงานเริ่มเยอะขึ้นเริ่มเครียด คิดมากในทุกๆเรื่อง อยากอยู่เงียบๆคนเดียว นอนไม่ค่อยหลับติดกัน2-3วันแล้วค่ะ อยากทราบว่าตัวเองเป็นไมเกรนหรือเปล่าคะ แล้วเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าไหม เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่เครียดถ้าอยู่กัยเพื่อน แต่ถ้าอยู่คนเดียวคิดทุกอย่างเป็นลบหมดเลยค่ะ
    บุญญรัตน์ เบบี้' บีเอพี  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ บุญญรัตน์ เบบี้' บีเอพี

    ภาวะซึมเศร้าคือการที่มีความรู้สึกเศร้า เครียดจากเรื่องต่างๆในชีวิตไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องส่วนตัว เรื่องในครอบครัว หรือการทำงาน ทำให้มีความรู้สึกไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากเข้าสังคม  อะไรที่เคยทำแล้วสนุก ก็ไม่สนุก คิดมาก ร้องไห้คนเดียว รู้สึกเบื่อต่อสภาพความเป็นอยู่ ซึ่งภาวะซึมเศร้าจริงๆแล้วเป็นภาวะที่เกิดได้กับคนทั่วไปในสภาวะที่ต้องเผชิญกับความเครียด ความกดดัน แต่ในคนทั่วไปจะค่อยๆดีขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไป จะไม่เป็นเรื้อรัง จนรบกวนชีวิตและการเรียน การทำงาน

    หากมีภาวะดังกล่าวติดต่อกันเกิน 2 อาทิตย์ขึ้นไป ร่วมกับมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย อาจมีอาการเบื่ออาหาร หรือในบางรายก็จะไปรับประทานทานอาหารมากขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอนน้อยหรือนอนมากกว่าปกติ และเก็บตัวมากจนไม่ออกไปทำงาน ไม่ออกไปเข้าสังคมเลย อาจจัดว่าเป็นโรคซึมเศร้า

    เบื้องต้นแนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาแก้ปวด พยายามคิดบวกและมองสิ่งที่เรามีดีๆในชีวิต พยายามหากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องเศร้า พูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่เราไว้ใจได้เพื่อระบายความทุกข์ ไม่เก็บตัวอยู่คนเดียวนานจนเกินไป

    ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินสภาพจิตเบื้องต้น หากพบว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงอาจจ่ายยาต้านเศร้าร่วมกับทำจิตบำบัด