อายุ 16 ปี จะปวดประจำเดือน 1 - 2 วันแรกมากๆ ปวดจากขาถึงหลัง บางครั้งอาเจียน เป็นโรคอะไรไหม

สวัสดีค่ะ คุณ pinning,

                     หากอายุ 16 ปี อาการปวดท้องประจำเดือน หากปวดในช่วงก่อนและขณะที่มีประจำเดือนมา แต่เมื่อประจำเดือนหายไปแล้ว ไม่มีอาการปวดอีก แม้อาการปวดจะเป็นรุนแรง ก็ถือว่าไม่ได้ผิดปกติอะไร ไม่ได้เกิดจากโรคอะไร เป็นเพียงอาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ โดยคาดว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างมีประจำเดือน และมาจากสารพรอสตาแกลนดิน ที่หลั่งออกมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกมากกว่าปกติและมาออกฤทธิ์ที่มดลูก ทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัวและเกิดอาการปวดที่บริเวณท้องน้อย โดยอาจปวดทั่วท้อง หรือข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้อาการปวดท้อง จะปวดมากที่สุดในช่วงอายุ 15-25 ปี หลังจากวัยนี้ไปอาการปวดจะค่อยๆ ลดลงไปเองค่ะ

                 และนอกจากอาการปวดท้องแล้ว ก็อาจพบอาการอื่นๆ ร่วม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหลัง ปวดก้นกบ ท้องผูก ท้องอืด เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย ปวดหัว เป็นต้น 

                 แต่หากไม่เคยมีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก่อน อาการปวดเกิดขึ้นในหลังอายุ 25 ปีไปแล้ว และอาการปวดเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือปวดหลายวัน ปวดต่อเนื่องแม้ประจำเดือนจะหมดไปแล้ว จึงจะถือว่าเป็นอาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก การมีเนื้องอกมดลูก มีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ มีซีสต์ที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ

                ทั้งนี้ หากเป็นอาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิที่กล่าวไป วิธีบรรเทาปวด ได้แก่ การประคบอุ่นที่ท้องน้อยด้วยกระเป๋าน้ำร้อน การอาบน้ำอุ่น การแช่น้ำอุ่นในอ่าง ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือช็อกโกแลต ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดช่วงเอวแน่นเกินไป ทานแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (paracetamol) หรือยาในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น พอนสแตน (ponstan) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เป็นต้น แต่หากทานยาเหล่านี้ อาการปวดยังไม่บรรเทา ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อพิจารณาให้ยาฮอร์โมนช่วยค่ะ ทั้งนี้ หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แพทย์มักจะไม่ได้ตรวจภายในให้ค่ะ