ถามแพทย์

  • ไปมีเพศสัมพันธ์กับหญิงบริการ ใส่ถุงยางอนามัย ผ่านไป 21 วัน ได้ตรวจ HIV ผลเป็น non-reactive เชื่อได้ไหม

  •  Pen Tor Kittisak
    สมาชิก
    สวัสดีครับ ผมได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับ ผญ. ขายบริการมาครับตอนแรกก็อาบน้ำก่อนและก็เริ่มด้วยการทำ ออลรัลเซ็กซ์ ก่อนแต่ไม่ได้ทำจนเสร็จ จากนั้นก็สวมถุงยางอนามัยแล้วก็มีอะไรกันครับทำจนเสร็จภายใน แต่เสร็จในถุงยางอนามัย เสร็จกิจก็อาบน้ำอีกรอบ หลังจากนั้น 21 วัน ผมได้ไปตรวจเลือดหาเชื้อ HIV โดยตรวจสอบ immunochromatography และ GPA ผลออกมาเป็น non-reactive ทั้ง 2 แบบครับ ผลมาแบบนี้นั้นน่าเชื่อถือกี่%ครับ ขอบคุณครับ

    สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                          หากไปมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV มา โดยฝ่ายหญิงมีการทำออรัลเซ็กส์ให้ โดยที่ฝ่ายชายไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย ก็อาจมีโอกาสติดเชื้อ HIV ได้ แต่ก็น้อยมาก ส่วนหลังจากนั้น หากมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่เข้าช่องคลอด แต่ใส่ถุงยางอนามัยป้องกันไว้ โอกาสในการติดเชื้อถือว่ามีน้อยมากค่ะ

                          สำหรับการตรวจเลือดหาการติดเชื้อ HIV นั้น หากจะให้ผลแน่นอนควรตรวจที่ 28 วันหลังไปมีความเสี่ยงมาค่ะ ซึ่งหากได้ตรวจที่ 21 วันไปแล้ว แนะนำควรตรวจอีกครั้งที่ 28 วันค่ะ นอกจากนี้ ควรตรวจหาการติดเชื้ออื่นๆ ด้วย เช่น ซิฟิลิส ไวรัสจับอักเสบชนิดบีและซี เป็นต้น โดยให้ตรวจที่ 90 วันหลังไปมีความเสี่ยงมาค่ะ 

                          ส่วนการตรวจด้วยเทคนิควิธี immunochromatography ถือเป็นการตรวจแบบ rapid test ซึ่งผลที่ได้อาจไม่แม่นยำเท่ากับการตรวจวิธีมาตรฐาน รวมถึงเทคนิควิธี Gel Particle Agglutination Test (GPA) ซึ่งเป็นการตรวจแบบ simple test ก็อาจมีความแม่นยำไม่เท่าเช่นกัน ดังนั้น แนะนำควรใช้เทคนิควิธี enzyme immunoassay (EIA) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานในการตรวจค่ะ