ถามแพทย์

  • หยุดทานยาคุมไปหนึ่งเดือนแล้วกลับมาทาน หลังเริ่มยา มีประจำเดือนมีสีน้ำตาลและปวดท้องน้อย เกิดจากอะไร

  •  K
    สมาชิก
    หยุดทานยาคุมไปช่วงวันที่ 3/2/64และกลับมาทานวันที่ 25/3/64 วันแรกของการมีประจำเดือนหลังจากหยุดทานยา มีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก ปกติเป็นคนประจำเดือนมา6-7 วัน แต่พอเริ่มกลับมาทานยาหลังจาก 7 วันแล้ว ประจำเดือนก็มีสีน้ำตาลและปวดท้องน้อยเป็นบางครั้งและตอนนี้ประจำเดือนที่เป็นสีน้ำตาลก็ยังไม่หมดเลยตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ 9/4/64อยากทราบว่าอาการที่เป็นอยู่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมหรือเปล่าค่ะ
    K  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ K

    การใช้ยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สุงมากเกิน 99% ถ้าได้กินทุกวันต่อเนื่องกันจนหมดแผง

    ผลข้างเคียงจากยาที่อาจพบได้เช่น มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องน้อยได้บ้าง

    แต่การใช้ยาคุมมักจะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอมากขึ้น การมีประจำเดือนมาในช่วงที่กินยาอยู่ อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาทำให้มีเลือดออกผิดปกติ หรืออาจมีสาเหตุอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับยาเช่น การติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือมดลูก การมีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูก อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ

    ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไปหากเลือดออกมากไม่หยุด หรือออกต่อเนื่อง เป็นทุกรอบเดือน ควรจะไปตรวจ เบื้องต้นถ้าเลือดยังออกไม่มาก อาจกินยาคุมต่อเนื่องไปก่อน และสังกตอาการและปริมาณเลือด