ถามแพทย์

  • รักษาซิฟิลิสด้วยการไปฉีดยาไป 1 เข็ม แพทย์นัดอีกทีประมาณ 3-4 เดือน ถือว่านัดช้าไปไหม

  •  ssarawat
    สมาชิก

    สวัสดีครับ ผมขอปรึกษาดังนี้ครับ

    วันที่ 1/3/2021 ตรวจเลือดไม่พบเชื้อซิฟิลิส ต่อมาผมมีอาการปวดตามข้อ,นิ้ว / ตาแดง / ฝาเท้าลอกและคัน จึงไปตรวจเลือดใหม่วันที่ 12/07/2021 หมอนัดมาฟังผลวันที่ 19/07/2021 พบว่ามีเชื้อ 1:32 หมอจึงให้ฉีดยา 1 ครั้ง(บั้นท้าย 2 ข้าง)ในวันนั้นเลย และหมอนัดดูอาการวันที่ 02/08/2021 ซึ่งวันนี้ หมอไม่ได้สั่งฉีดยาอีกครับ และนัดมาเจาะเลือดอีกวันที่ 29/11/2021

    อยากปรึกษาคุณหมอ pobpad ว่า หมอที่ รพ นัดเจาะเลือดอีกนานไปไหมครับ และปริมาณเชื้อที่ตรวจพบเยอะหรือไม่ ทำไมหมอให้ฉีดแค่วันเดียวแล้วนัดเจาะเลือดอีกนานเลย กลัวว่าเชื้อจะลุกลามกลับมาเยอะอีกครับ

    ssarawat  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ ssarawat

    โรคซิฟิลิส เป็นโรคของการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง มี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกจะมีแค่แผลที่อวัยวะเพศหรือต่อมน้ำเหลืองโต ระยะที่สองจะพบผื่นตามร่างกาย มีไข้ต่ำๆ ระยะแฝงหรือระยะที่สาม คือระยะที่ไม่แสดงอาการ แต่เชื้อจะซ่อนอยู่ในร่างกายจนกระทั้่งเข้าสู่ระยะสี่ คือเริ่มมีอันตรายต่อระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 3-10 ปี 

    จากที่กล่าวมา อยู่ในช่วงที่มีอาการต่างๆ ซึ่งน่าจะยังอยู่ในช่วงรับเชื้อใหม่ไม่เกิน 1 ปี การรักษาจึงใช้ยาฆ่าเชื้อเพนซิลินฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงครั้งเดียว เชื้อปริมาณ 1:32 นั้นถือว่ามีเชื้อพอสมควร ควรได้รับการรักษาทันที แต่เป็นค่าที่ไม่ได้สูงผิดปกติในกรณีคนที่เป็นโรค

    หลังการรักษา ส่วนใหญ๋ผลเลือดจะกลับมาเป็นปกติภายในประมาณ 1 ปีในคนปกติที่ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ส่วนใหญ๋แพทย์อาจนัดตรวจเลือดที่ประมาณ 3-6 เดือนหลังได้ยา และอีกครั้งที่ 12 เดือนหลังการรักษาค่ะ ให้ไปตามที่แพทย์นัด ในระหว่างนี้งดการไปรับเชื้อมาใหม่ มีเพศสัมพันธ์ให้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกันไว้ทุกครั้ง