ถามแพทย์

  • มีไข้ช่วงเช้าและเย็นมา 12 วันแล้ว เกิดจากอะไร

  •  Suwannee Ph
    สมาชิก
    ขอสอบถามคุณหมอค่ะ เนื่องจากมีอาการหนาวสั่นปวดเมื่อตามข้อกระดูก ปวดกระบอกตาปวดบริเวณคอและมีไข้สูง 38-40 ํ เป็นมา 12 วันแล้วตั้งแต่ 3/6/62-14/6/62 ได้ไปหาหมอท่านแรกวันที่ 6/6/62 บอกไข้เนื่องจากต่อมน้ำเหลืองอักเสบให้ยาแก้ปวดลดไข้กับยาแก้อักเสบมาทานแต่ก็ไม่หา วันที่ 8/6/62 ไปหาหมอคลีนิค หมอฉีดยาแก้อักเสบให้ 1 เข็ม อาการปวดดีขึ้นแต่ยังมีไข้ จนวันวันที่ 11/6/62 ไข้ขึ้น 40.1 ํ จึงได้ไปโรงพยาบาลหมอให้แอดมิต ให้น้ำเกลือ นอน รพ. 1 คืนไข้ไม่ถึง 38 ํ ตรวจเลือดก็ไม่พบเชื้อไข้เลือดออกหรือไข้หวัดใหญ่แต่อย่างไร พอกลับบ้านมาพักที่บ้านวัดไข้ได้ 37.7-39 ํ ไม่ทราบว่าต้องตรวจอะไรยังไงถึงจะทราบว่าเป็นอะไรค่ะ
    Suwannee Ph  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Suwannee Ph

    อาการไข้ หากเป็นเรื้อรังนานกว่า 3 สัปดาห์ อาจจะมีสาเหตุเช่น

    - การติดเชื้อเรื้อรังต่างๆ  เช่น วัณโรค ไข้ไทฟอยด์ ติดเชื้อ HIVระยะเฉียบพลัน ติดเชื้อมาลาเรีย โรคเมลิออยโดสิส โรคไข้รากสาด โรคติดเชื้อไวรัสอีบีวี (EBV) ตับอักเสบจากเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ไข้รูมาติก ฝีในปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ปอดอักเสบหรือติดเชื้อ

    ขึ้นกับว่ามีอาการใดๆที่บ่งชี้ไปยังระบบใดหรือไม่ ร่วมกับเจาะเลือดร่วมด้วยว่ามีเม็ดเลือดขาวชนิดใดสูง น่าจะเป็นการติดเชื้อในกลุ่มใด

    -โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ เช่น SLE โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

    -โรคมะเร็ง ส่วนใหญ่เกิดจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ทำให้มีไข้

    -โรคอื่นๆ เช่น ไข้จากยา ไข้จากสารพิษ โรคป่วยเทียม (factitious fever)

    หากเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ก็มักจะมีไอมาก เจ็บคอร่วมด้วย ไข้เลือดออกมักมีไข้ไม่เกิน 7 วัน ถ้าเกินจากนี้ไม่น่าจะใช่ไข้เลือดออกค่ะ

    แนะนำว่าถ้ายังมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัวมาก ควรกลับไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจร่างกายซ้ำและตรวจเลือดในระบบที่เกี่ยวข้อง ควรแจ้งแพทย์ว่าเป็นไข้สูงมาตั้งแต่เมื่อใด ตอนนี้ยังไม่หาย แพทย์จะนึกถึงโรคในกลุ่มไข้เรื้อรังดังกล่าวไปมากขึ้น

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อน รับประทานยาลดไข้และเช็ดตัวลดไข้ทุก 4-6 ชั่วโมง