ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 1 สัปดาห์ หลังจากหมดไป 1 สัปดาห์ ได้มีเลือดออก ปวดท้องน้อย จะเป็นอะไรไหม

  •  Nakeerin Sripongsai
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีว่ามีเรื่องอยากถามค่ะ คือเป็นปจด.1อาทิตย์แล้วทีนี้พอหายเป็นปจด.1อาทิตย์ อยู่ดีๆก็มีอาการปวดเกร็งท้องน้อยก็มีเลือดไหลค่ะ แต่ไม่มากแบบใช้เช็ดชู่ซับถึงรู้ว่าทีเลือดไหลค่ะจะเป็นอะไรไหมคะ เพราะว่าเดือนที่แล้วก็เป็นแบบนี้เลยค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Nakeerin Sripongsai,

                        หากมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ แล้วหลังจากที่ประจำเดือนหมดไป 1 สัปดาห์ ได้มีเลือดออกมา เลือดดังกล่าว อาจเป็น

                        - เลือดออกช่วงไข่ตก หากเลือดที่ออกอยู่ในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา ออกเพียงเล็กน้อย และออกแค่ 1 วัน เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นเลือดออกวันไข่ตกได้ นอกจากนี้ ในช่วงไข่ตก อาจมีอาการอื่นๆ ได้อีก เช่น มีตกขาวมาก ปวดท้องน้อย เจ็บเต้านม คลื่นไส้ ไวต่อกลิ่นต่างๆ ความต้องการทางเพศมากขึ้น เป็นต้น

                          - มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น โดยเลือดที่ออกก่อนหน้านั้น อาจไม่ใช่ประจำเดือนได้ 

                          - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                         - มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น มักพบในวัยกลางคนขึ้นไป 

                          - ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น    

                         หากเลือดออกแค่ 1 วันแล้วหายไป ก็อีกทั้งเป็นมา 2 รอบเดือนแล้ว ก็น่าจะเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกได้ค่ะ ซึ่งไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ 

                         แต่หากเลือดออกนานเกิน 2 วัน หรือมีเลือดออกบ่อยๆ อีก หรือเลือดมีปริมาณมาก ก็ไม่น่าใช่เลือดออกช่วงไข่ตก ซึ่งหากที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ หากตรวจไม่พบ และเลือดยังคงไม่หยุดไหล ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ