ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ 8 วันก่อนประจำเดือนเริ่มในเดือนที่แล้ว และประจำเดือนมาแล้ว แต่เดือนนี้ประจำเดือนยังไม่มา จะท้องไหม

  •  Book Chatichai
    สมาชิก
    สวัสดีครับคุณหมอ คือ ผมมีเพศสัมพันธ์กับเเฟน เมื่อตอน วันที่ 8 มีนาคม (ได้มีเพศสัมพันธ์ 8 วันก่อนประจำเดือนเริ่ม) ตอนมีเพศสัมพันธ์ผมได้ใส่ถุงยางตลอดเวลา และหลั่งนอก เเต่ว่าได้พบว่าถุงยางนั้นได้เลื่อนขึ้นนิดนึงเเละได้ถอดง่ายกว่าปกติ ซึ่งทำให้ผมกับเเฟนกังวลเเละได้ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทาน 1 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ (วันที่ 9 มีนาคม) ประจำเดือนของแฟนมาตามปกติตอน วันที่ 16 มีนาคม (ประจำเดือนครบ6วันตามปกติ) เเต่ว่าเดือนถัดมาประจำเดือนเเฟนยังไม่มาเลยครับ จึงทำให้ไม่เเน่ใจว่าเเฟนนั้นท้องรึเปล่าครับ? (ปกติประจำเดือนเเฟนมาตรงมากเเละมีรอบประจำเดือน 31วันครับ เเต่ครั้งนี้37วันเเล้วยังไม่มาเลยครับ) หรือว่าเป็นเหตุผลอื่นรึเปล่าครับ? คุณหมอคิดว่ายังไงครับ? ขอบคุณครับ

    สวัสดีครับ คุณ Book Chatichai

    จริงๆแล้ว หากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน และไม่ได้มีการแตกรั่ว ก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์นะครับ  ประกอบกับประจำเดือนมาปกติหลังจากนั้น ก็ยิ่งยืนยันว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ เพราะแสดงว่ามีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก และไม่มีการฝังตัวของเซลล์ไข่ครับ

    แต่ถ้าประจำเดือนรอบนี้ไม่มา คือเกิน 35 วันแล้ว ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจครับ เพราะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดครับ  แต่หากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์และประจำเดือนก็ยังไม่มา ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น รังไข่ทำงานผิดปกติ ความเครียด น้ำหนักลด ต่อมใต้สมองสร้างฮอร์โมนผิดปกติ ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ เป็นต้นครับ  ในกรณีนั้น ก็ควรพบแพทย์นรีเวช เพื่อรับการตรวจและรับคำปรึกษาต่อไปครับ

    สวัสดีครับ คุณ Book Chatichai

    จริงๆแล้ว หากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน และไม่ได้มีการแตกรั่ว ก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์นะครับ  ประกอบกับประจำเดือนมาปกติหลังจากนั้น ก็ยิ่งยืนยันว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ เพราะแสดงว่ามีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก และไม่มีการฝังตัวของเซลล์ไข่ครับ

    แต่ถ้าประจำเดือนรอบนี้ไม่มา คือเกิน 35 วันแล้ว ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจครับ เพราะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดครับ  แต่หากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์และประจำเดือนก็ยังไม่มา ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น รังไข่ทำงานผิดปกติ ความเครียด น้ำหนักลด ต่อมใต้สมองสร้างฮอร์โมนผิดปกติ ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ เป็นต้นครับ  ในกรณีนั้น ก็ควรพบแพทย์นรีเวช เพื่อรับการตรวจและรับคำปรึกษาต่อไปครับ