ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยางอนามัย กินยาคุมฉุกเฉิน 1 สัปดาห์ มีตกขาวปนเลือด จะเป็นมะเร็งไหม

  •  jjarisara
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ คือหลังจากหนูมีอะไรกับแฟนมาเมื่อ1อาทิตย์ที่เเล้วและครั้งล่าสุดเมื่อวาน หนูเพิ่งสังเกตุตัวเองว่ามีของเหลวใสคล้ายตกขาวปนเลือดออกมาค่ะ แล้ววันี้หนูลองใช้คัทตอนบัทเช็ดออกมาดูพบว่าเป็นมีอาการตกขาวปนเลือด หนูอายุ18มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมั้ยคะ เเล้วอาการแบบนี้จะหายไปไหม แต่หนูกับแฟนสวมถุงยางอนามัยนะคะ เเล้วก็กินยาคุมฉุกเฉิดกันไว้อีกด้วย ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ jjarisara,

                           หากมีเพศสัมพันธ์ โดยใช้ถุงยางอนามัย และใช้ได้อย่างถูกต้อง ไม่มีการฉีกขาดหรือรั่วซึม โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะมีประมาณ 2% ดังนั้น จริงๆ แล้ว จึงไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินไปโดยไม่จำเป็นค่ะ 

                           สำหรับตกขาวปนเลือดที่ออกมาหลังจากทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์นั้น เลือดดังกล่าวน่าจะเกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉินได้ ซึ่งก็ไม่ได้อันตรายอะไร โดยปกติจะมีเลือดออกอยู่ได้นาน 1-4 วันค่ะ ดังนั้น ควรสังเกตอาการไปก่อน หากไม่ได้มีตกขาวปนเลือดออกต่อเนื่องนานเป็นสัปดาห์ ไม่ได้มีปวดท้องน้อยมากร่วมด้วย ก็ไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ

                         สำหรับมะเร็งปากมดลูกนั้น พบได้น้อยมากมากในคนอายุ 18 ปี และอาการคือจะมีเลือดออกผิดปกติมาเรื่อยๆ มีตกขาวปนเลือดออกมาต่อเนื่อง มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อย เป็นต้น

                         หลังจากนี้ หากจะมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นต้น ซึ่งวิธีเหล่านี้ จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินเป็นประจำ เพราะจะมีผลต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้มีเลือดออกผิดปกติ และประจำเดือนมาผิดปกติได้ อีกทั้งประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ถือว่าดีมากนักเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ค่ะ