มะเร็งเต้านม Her2 positive

สวัสดีค่ะ คุณ sukkamon,

                     หากผู้ป่วยมีอาการปวดแผลมะเร็งมาก อาจเป็นสาเหตุให้ไม่มีแรง และหายใจลำบาก (เนื่องจากการหายใจทำให้มีการเคลื่อนไหวของทรวงอก อาจส่งผลให้ยิ่งปวดแผลมากขึ้น) ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องบรรเทาอาการปวดแผลให้ปวดน้อยที่สุด ซึ่งการใช้ยาแก้ปวดทั่วไป เช่น ยาพาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน อาจไม่สามารถบรรเทาอาการปวดจากแผลมะเร็งได้ ต้องอาศัยยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรงกว่า ซึ่งคือยาแก้ปวดกลุ่มที่มีคุณสมบัติทำให้เสพติด เช่น tramadol, kapanol, morphine ซึ่งมีทั้งรูปแบบเม็ดกิน ยาน้ำ แบบฉีด และแบบแผ่นแปะ การใช้ยาในกลุ่มนี้ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น และมักจะให้ร่วมกับยาแก้ปวดทั่วไปเพื่อเสริมฤทธิ์ให้มากขึ้น รวมทั้งมีการใช้ยากลุ่มอื่นๆ ที่อาจไม่ได้ออกฤทธิ์แก้ปวดโดยตรง แต่หากทานร่วมกันกับยาดังกล่าวข้างต้นจะสามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดของผู้ป่วยลงได้ เช่น ยานอนหลับ ยาต้านเศร้า เป็นต้น  

                  มะเร็งเต้านมที่มีผลการตรวจหาโปรตีน HER-2 เป็นบวก (หรือ positive 3+) โปรตีนชนิดนี้มีหน้าสนับสนุนการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ดังนั้นการพยากรณ์โรคของผู้ป่วยที่มีโปรตีนชนิดนี้จึงไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่มี อย่างไรก็ตามมียาที่สามารถต้านโปรตีนชนิดนี้ได้ค่ะ เช่น trastuzumab (herceptin)

                   ดังนั้นหากผู้ป่วยมีอาการปวดแผลมาก ทานอาหารไม่ได้ ควรพาไปพบแพทย์ก่อนนัดฉายแสง เพื่อรับยาบรรเทาอาการปวดก่อนค่ะ หากยังคงทานอาหารไม่ได้ อาจพิจารณาให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและเสียสมดุลเกลือแร่ค่ะ สำหรับแผลนั้น ควรทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งหรือทำเมื่อมีน้ำเหลืองซึมมากค่ะ การทำแผลบ่อยๆ มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและติดเชื้อแทรกซ้อนค่ะ การทำแผลไม่สามารถทำให้แผลมะเร็งหายได้ ต้องอาศัยการรักษาด้วยฉายรังสีและยาเคมีบำบัดเท่านั้นค่ะ

                 โอกาสหายของมะเร็งเต้านมในระยะที่ 3 หรือ 4 นั้นแม้จะน้อย แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ค่ะ หากมะเร็งมีการตอบสนองต่อยาและรังสีรักษาดี ขอเป็นกำลังใจให้อาการดีขึ้นนะคะ