การทานคอลลาเจน มีผลต่อการเกิดฝ้าเลือดที่ใบหน้าไหม

สวัสดีค่ะ คุณ แบม จีรังวานิชชัย,

                   ฝ้า (Melasma) เกิดจากเซลล์ที่ผลิตเม็ดสี (melamocyte) ทำงานผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป จึงทำให้สีผิวคล้ำขึ้น ซึ่งเม็ดสีเมลานินนั้นมีหน้าที่กรองรังสียูวี ดังนั้นเมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นตามไปด้วย นอกจากแสงแดดแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีมากขึ้นได้ เช่น การใช้ยาฮอร์โมนบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นต้น มีการเปลี่ยแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ตั้งครรภ์ การใช้เครื่องสำอางบางชนิด รวมถึงกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน 

                   สำหรับชนิดของฝ้านั้น แบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ

                  - ฝ้าตื้น เม็ดสีจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า จึงทำให้ฝ้าชนิดนี้มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ และ มักมีขอบเขตชัดเจน

                  - ฝ้าลึก เม็ดสีจะอยู่ใต้ต่อชั้นหนังกำพร้า คืออยู่ในชั้นหนังแท้ จึงทำให้ฝ้าชนิดนี้มักจะมีสีอ่อนกว่าชนิดฝ้าตื้น โดยอาจมีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา สีน้ำตาลเทา หรือ สีม่วงอมน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีขอบเขตไม่ชัดเจน โดยมักมีสีกลืนไปกับผิวหนังปกติรอบข้าง

                 - คือมีการผสมกันทั้งฝ้าชนิดตื้น และชนิดลึก เป็นชนิดที่พบมากที่สุด 

                 - ฝ้าที่ไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่าเป็นฝ้าชนิดใด  มักพบในผู้ที่สีผิวเข้มมาก หรือ คล้ำมาก เช่น ในชนชาติแอฟริกัน เป็นต้น

                   ส่วนคอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย เช่น เอ็นกล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน หมอนรองกระดูกสันหลัง หลอดเลือด กระจกตา ส่วนของเนื้อฟัน รวมถึงผิวหนัง เป็นต้น เซลล์ในร่างกายสามารถที่จะสร้างได้เอง จากกรดอะมิโนชนิดต่างๆ โดยอาศัยวิตามินซีเป็นตัวช่วยในการสร้าง 

                   ดังนั้นการกินคอลลาเจน ก็เหมือนกับการกินโปรตีนชนิดอื่นๆ เช่น โปรตีนจากไข่ จากนมและเนื้อสัตว์ต่างๆ  ดังนั้นเมื่อทานเข้าไปแล้ว ก็จะถูกย่อยสลายจากกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กจนกลายกรดอะมิโนชนิดต่างๆ หลังจากนั้นร่างกายก็จะนำกรดอะมิโนเหล่านี้ไปใช้ในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ดังนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับสาเหตุของการเป็นฝ้าแต่อย่างใด