ประจำเดือนเป็นลิ่มค่ะ มีเลือดสดมีมูกใสปน หลังจากฝังยาคุมได้ 2 เดือน

สวัสดีค่ะ คุณ Thanyarat Singsathit 

การฝังยาคุมกำเนิด (Implantation) ไม่ว่าจะเลือกใช้แบบสามารถฝังได้ 3 หรือ 5 ปี ตัวยาที่บรรจุในหลอดคือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนค่ะ แต่ว่ามีปริมาณยาที่เเตกต่างกัน

โดยหลังจากที่ฝังไปแล้ว ฮอร์โมนจะมีความสามารถในการยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูกให้เหนียว รวมไปถึงทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลง จึงเป็นภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อนค่ะ 

ดังนั้น การที่เยื่อบุบางลง จึงเป็นสาเหตุที่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้บ้างค่ะ บางรายอาจมีเลือดออกได้มาก หรือเลือดออกเป็นระยะเวลายาวนานกว่าปกติ แต่ในบางรายซึ่งถือว่าเป็นส่วนมาก ประจำเดือนมักจะลดลง สุดท้ายประจำเดือนจะขาดหายไปค่ะ 

อย่างไรก็ตาม ถ้าเริ่มฝังยาได้อย่างถูกต้อง คือภายในวันที่ 1-5 ของรอบเดือน ส่วนมากประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะเริ่มเกิดขึ้นตั้งเเต่วันเเรกหลังจากการฝังยาค่ะ เเต่ถ้าไม่ได้เริ่มฝังตามนี้ อาจต้องคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปก่อนค่ะ ในช่วง 1-2 อาทิตยืเเรก เนื่องจากอาจยับยั้งการตกไข่ได้ไม่ดีเท่า ดังนั้น เลือดที่ออกกระปริบกระปรอย หรือเป็นลิ่ม มีโอกาสที่จะเกิดเป็นผลตามหลังจากการใช้ยาฝังค่ะ เเต่ถ้าไม่มั่นใจอาจลองตรวจปัสสาวะเพื่อดูการตั้งครรภ์ร่วมด้วยค่ะ ถ้าพบการตั้งครรภ์ให้รีบไปพบเเพทย์ค่ะ เเต่การฝังยาโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ถือว่าค่อนข้างต่ำค่ะ คือ 0.5%

แต่ถ้าเลือดออกเล็กน้อย พอทนได้ อาจสังเกตอาการได้ต่อค่ะ เว้นเเต่ว่าเลือดออกนานตอดต่อกัน หรือ มีกลิ่มเหม็น ร่วมกับมีตกขาว ที่สีเเตกต่างไปจากเดิม ปวดท้องน้อย อาจไม่ได้เกิดจากยาฝังคุมกำเนิด แต่เป็นการติดเชื้อในช่องคลอด ในโพรงมดลูก หรือมีติ่งเนื้อที่ปากมดลูกได้ ดังนั้น ถ้ามีอาการเหล่านี้ ที่แตกต่างไปจากที่เป็นมาโดยตลอด เเนะนำให้ไปตรวจภายในโดยสูตินรีเเพทย์ก่อนค่ะ เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากถ้ามีการติดเชื้ออาจต้องให้ยาฆ่าเชื้อค่ะ