ถามแพทย์

  • เด็ก 10 ขวบ มีไข้ หลังจากนั้นมีผื่นขึ้นตามตัว เป็นตุ่มใหญ่เหมือนยุงกัด ไปฉีดยาแล้วไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร

  •  Chonthicha Singthong
    สมาชิก
    วันเสาร์ที่6ก.ค น้องได้มีอาการตัวร้อน เลยให้กินยาพารา แต่ไม่หายเลยไปซื้อร้านขายยามาให้กิน วันเสาร์ที่กินตอนเย็นไม่เป็นอะไร แต่พอวันอาทิตย์ ซักช่วงบ่ายมีตุ่มขึ้นเหมือนยุงกัด แต่บวมและใหญ่มาก ก็เลยซื้อยาแก้แพ้เม็ดสีเหลืองมาให้กินก็หายไป แต่พอตกเย็นก็ให้กินยาที่ซื้อมาจากร้านขายยาพบว่าเกิดตุ่มแดงคันอีก เลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล คิดว่าแพ้ยา หมอก็ได้ทำการฉีดยาแล้วก็หาย และหมอห็ให้ยามากิน ก็ให้กินตามที่หมอสั่ง ก็มีขึ้นอีกแต่ไม่บวมมาก เป็นรอยแดง ขนาดใหญ่ และคัน ต้องใช้คารามายทา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด ขอสอบถามและรบกวนหน่อยค่ะ (มีรูปค่ะ)
    Chonthicha Singthong  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Chonthicha Singthong

    การวินิจฉัยที่เป็นไปได้ของไข้ออกผื่นในเด็ก

    -โรคอีสุกอีใส มาด้วยตุ่มน้ำบนพื้นสีแดง พอตุ่มน้ำแตกออกจะแห้งแตกเป็นสะเก็ด สามารถขึ้นได้ทั่วตัว ร่วมกับมีไข้ต่ำๆ

    -ตุ่มที่เกิดจากการแพ้ยา อาจทำให้มีหน้าบวม ปากบวม หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยได กรณีเป็นแพ้รุนแรง

    -โรคหัด ถ้าบุตรได้รับวัคซีนตามวัยครบ โอกาสเกิดน้อยค่ะ

    -ส่าไข้ มาด้วยไข้สูงประมาณ 1 สัปดาห์ พอไข้ลงจะมีผื่นแดงขึ้นตามตัว

    -โรคมือเท้าปาก แต่ตุ่มในโรคนี้จะอยู่ตามบริเวณมือ เท้า ปากเท่านั้น พบบริเวณอื่นน้อยค่ะ

    -โรคไข้เลือดออก จะเป็นเหมือนจุดแดงตามตัว ไม่คัน

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ไม่ไปแกะเกาตุ่มที่มี ถ้ามีไข้ให้รับประทานยาลดไข้และเช็ดตัวลดไข้ทุก 4 ชั่วโมง แยกบุตรออกจากการคลุกคลีกับเด็กคนอื่นเพื่อป้องกันการติดต่อ และหยุดยาทุกชนิดที่ไม่จำเป็น โรคส่วนใหญ่ที่กล่าวมาเกิดจากเชื้อไวรัส คือสามารถหายเองได้ ไม่จำเป็นต้องได้ยาฆ่าเชื้อ แต่อย่างไรก็ตามในบางโรคถ้าเด็กมีไข้ กินได้น้อย อาจต้องได้รับการให้สารน้ำในรพ.ค่ะ

    การให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน จำเป็นพบต้องพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพิ่มเติมตามที่จำเป็น ถ้าผื่นลุกลามมาก คัน แดง และบุตรยังมีไข้ รับประทานอาหารได้น้อย ต่อมน้ำเหลืองโต และดูไม่เล่น ซึม ควรรีบพาไปพบแพทย์