ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ทางปากไม่ป้องกัน ตอนนี้ผ่านมา 6 วันแล้ว ผลตรวจยังเป็นลบ จะมีโอกาสเป็น hiv ไหม

  •  Kanniti Ramchaisong
    สมาชิก
    เมื่อ6 วันที่แล้วผมมีการนัดมีเพศสัมพันธ์ ชายชาย แบบภายนอก ออรัลเซก ผมเป็นฝ่ายถูกอม ครับหลังจากนั้นไม่มีการทำอะไรกันเลย พอหลั่งเสร็จผมก็รีบไปอาบน้ำล้างอวัยวะเพศครับ ผมพบว่าบริเวณองคชาติ มีรอยคล้ายแมวข่วนน่าจถถูกฟันอีกฝ่ายขูดประมาณ 1.3 เซนติเมตร เป็นสีแดงไม่แน่ใจว่าเลือดซิบไหมครับ ด้วยความตกใจจึงรีบล้างด้วยน้ำสบู หลายรอบครับ จนอาจจะล้างแรงไปมีเลือดออกแต่นิดเดียวครับ แบบนี่ถ้าเขามีเชื้อ HIV ผมจะติดจากเขาไหมครับ ปล.1 ผมสืบได้ความมาว่าเขามีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างสูง เช่นเคยใช้เข็มเล่นยาไฮ นัดบ่อย ทุกวัน ผมให้เขาไปตรวจเขาบอกว่าเขาไม่เป็น hiv แต่เขาไม่ยอมไปตรวจแค่พูดกับผมลอยๆ จนตอนนี้เขาบล็อกหนีผมไปแล้วครับผมคิดว่าเขาทราบว่าตัวเองมีเชื้อครับ ปล.2 เมื่อสองวันที่แล้วผมไปตรวจที่คลินิกนิรนามผลเลือด เป็นลบครับ วันนี้ผมไปตรวจซ้ำที่ รพ เลือดเป็นลบเช่นกัน หมอให้ PreP มาทานครับแต่ยังไม่ได้ตรวจค่าตับไต เลยยังไม่ทานจะเริ่มทานเดือนหน้าเมื่อตรวจค่าไตกับตับแล้วครับ ปล.3 ในระหว่าง 5-6 เดือนที่ผ่านมาผมไม่เคยมึการสอดใส่เลยครับ อาจจะมึภายนอก แค่ ออรัล อย่างเดียวครับรบกวนช่วยตอบผมด้วยนะครับผมกลัวและกังวลมากๆ
    Kanniti Ramchaisong  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Kanniti

    โรค hiv เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส hiv ซึ่งติดต่อกันผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางทวารหนัก ทางปาก หรือการใช้ของมีคมร่วมกัน การสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่บริเวณเยื่อบุตา ปากหรือจมูก เป็นต้น

    ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์กันทางปากโดยไม่ได้ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยนั้นมีโอกาสรับเชื้อได้แม้จะค่อนข้างน้อยประมาณ 1% หรือน้อยกว่านั้น

    ควรไปตรวจยืนยันเรื่องการติดเชื้อให้แน่ชัดค่ะ หากเลย 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว อาจไม่มีข้อบ่งชี้ในการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ยา PreP ดังกล่าวมา จะหมายถึงการป้องกันก่อนจะไปรับเชื้อ ก็คือกินระยะยาวเพื่อป้องกันเอาไว้ แต่ไม่ได้มีผลในการป้องกันการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ที่เกิดไปแล้ว ตอนนี้ควรติดตามค่าเลือด โดยค่าเลือดของการเป็น hiv มีหลายแบบ มีทั้งแบบที่ตรวจทั้งเชื้อและภูมิพร้อมกันให้ผลที่แน่นอนได้ประมาณ 1 เดือนหลังมีความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตาม ควรไปตรวจยืนยันอีกครั้งที่ 3 เดือนหลังเสี่ยงด้วยการตรวจภูมิคุ้มกันต่อโรคโดยตรง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อจริงๆค่ะ และควรมีเพศสัมพันธ์โดยการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ไม่ใช้ของมีคมร่วมกันกับผู้อื่น